Skip to main content

ผู้ประกอบการท้องถิ่นขอเยียวยา หลังนำกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติด

10 กรกฎาคม 2567

เครือข่ายวิสาหกิจกัญชาเห็นด้วยนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด แต่ควรขยายกรอบค่า THC ให้มากขึ้น และมีมาตการเยียวยาผู้ประกอบการ

นายมนตรี เยี่ยมสูงเนิน ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ เปิดเผยว่า จากกรณีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ได้มีมติเห็นชอบให้นำกัญชาและกัญชง กลับเข้าสู่บัญชีรายชื่อยาเสพติดประเภทที่ 5 โดย (ร่าง) ประกาศดังกล่าว จะเพิ่มกัญช าและกัญชงในส่วนช่อดอกที่มีสารสกัด THC มากกว่า 0.2% เป็นยาเสพติด ยกเว้น กิ่ง ก้าน ราก ใบ เมล็ด ซึ่งการเปลี่ยนสถานะกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดให้โทษนั้น ตนเห็นด้วย เพราะในช่วงที่ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ประกาศปลดล็อกให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้อย่างเสรีเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 มีประชาชนที่สนใจจะปลูกลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่นกัญชา มากกว่า 1,100,000 ราย

ในขณะที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนของตนและที่อื่นๆ อีก 3,000-4,000 รายทั่วประเทศ ต้องไปทำ MOU ร่วมกับส่วนราชการเพื่อให้ได้รับใบอนุญาต ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก อีกทั้งในห้วง 2 ปีที่ปลดล็อกกัญชา ทำให้พืชกัญชา และผลิตภัณฑ์กัญชาล้นตลาด มีการนำไปใช้เพื่อการสันทนาการจำนวนมาก ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ และที่สำคัญคือไม่สามารถควบคุมดูแลการใช้ได้ ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนเข้าถึงกัญชาโดยง่าย และยังมีการนำเข้ากัญชาจากต่างประเทศเข้ามาจำนวนมากด้วย จึงส่งผลกระทบทำให้กัญชาล้นตลาด และราคาตกอย่างรวดเร็ว หาที่ขายแทบไม่ได้  วิสาหกิจชุมชนต่างๆ จึงล้มหายไปเป็นจำนวนมาก

ขณะที่เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ ก็พยายามประคับประคองตัวเอง ด้วยการลดพื้นที่ปลูกกัญชาลง 90% ถ้าปลูกเยอะก็หาที่ขายไม่ได้ และพอมีสัญญาณนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง เกษตรกรสมาชิกของกลุ่มฯ จำนวน 435 ราย ต่างมีความหวังมากขึ้น คิดว่าน่าจะดีสำหรับกลุ่มที่ปลูกเพื่อการแพทย์  แต่ที่ระบุให้ส่วนช่อดอกที่มีสารสกัด THC มากกว่า 0.2% เป็นยาเสพติด ตนเห็นว่าน่าจะปรับเปลี่ยนค่า THC ให้สูงกว่านี้ ไม่ใช่บีบไว้แค่ 0.2 % อยากให้เพิ่มอย่างน้อยเป็น 0.5 % เพราะถ้านำไปทำเป็นน้ำมันกัญชาจะได้ไม่ผิดกฎหมาย

เป็นการขยายโอกาสให้กับกลุ่มที่ปลูกเพื่อการแพทย์ จะได้มีช่องทางจำหน่ายในเชิงการค้าหรือแปรรูปได้กว้างขึ้น ไม่ใช่จำกัดการทำได้แค่ผลิตภัณฑ์ไม่กี่ตัวแบบเดิม นอกจากนี้ ควรสนับสนุนการส่งออกสารสกัด THC ไปยังประเทศที่มีความต้องการนำสารสกัด THC ไปแปรรูปทำเป็นยาด้วย เพราะกลุ่มวิสาหกิจชุมชนส่วนใหญ่จะลงทุนซื้อเครื่องสกัดสาร THC ราคาหลายล้านบาท  แต่กลับไม่ได้ใช้ เพราะสกัดสาร THC ออกมาแล้ว แต่ไม่สามารถขายได้ เงินของสมาชิกที่ร่วมลงทุนต้องมากองอยู่เฉยๆ ไม่สามารถเอาทุนคืนได้สักที ถ้าสนับสนุนในเรื่องนี้ด้วย ก็ช่วยได้อย่างมาก

แต่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ปลูกถูกต้องตามกฎหมาย หรือผู้ที่ปลูกเพื่อสันทนาการ ก็มีการลงทุนเปิดร้านจำนวนมาก ถ้าประกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติด มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2568 ย่อมได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า จึงตนอยากให้รัฐเร่งเยียวยาช่วยเหลือก่อน เพราะวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจริงๆ
 

กัญชา
กัญชา
กัญชา
เนื้อหาล่าสุด