องอาจ เดชา
ป้าหุย - ศิริพร สรรค์ศิริกุล เจ้าของ สตูดิโอ เชียงดาวบลู (Studio Chiangdao Blue) เป็นผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการทำผ้ามัดย้อมด้วยครามแบบครบวงจร ตั้งแต่การลงมือเพาะเมล็ดพันธุ์ ลงมือปลูกครามและห้อมเอง ไปจนถึงการออกแบบ การย้อมคราม จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์งานศิลปะที่สอดคล้องกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและวิถีชุมชนได้เป็นอย่างดี
ทำไมเลือกมาเปิดพื้นที่เรียนรู้ที่เชียงดาว ?
ศิริพร: เรามองว่า ไม่มีที่ไหนที่จะเหมาะเท่าเชียงดาวอีกแล้วที่จะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม พลังงาน ธรรมชาติ แค่ตรงนี้คุณเข้ามา คุณก็จะรู้สึกว่า เฮ้ย มันสงบ แล้วมันก็สามารถที่จะโฟกัสอะไรได้ คุณสามารถปรับความวุ่นวะวุ่นวาย หรือความสนใจวิตกกังวลออกไปได้ที่นี่ คุณสามารถสวิตช์ตัวเองได้ปุ๊บ มันก็จะมีโอกาสใหม่ๆ เกิดขึ้นมา
คุณอาจจะมานั่งย้อนคิดทบทวนตัวเอง แต่ละคนอาจจะมีคำถามในใจ ว่าปัจจุบันนี้เหนื่อยยาก วุ่นวาย เสียเวลา เครียด แต่ว่าจะหาทางออก แต่ยังอยู่ในพื้นที่เก่าๆ มันก็ยาก แต่ถ้าย้ายมาอยู่ในที่ใหม่ๆ อะไรที่เคยมีคำถามลึกๆ ในใจ มันอาจจะมีแสงสว่างนิดๆ เข้ามา คุณก็แค่วิ่งตามแสงนั้นไป แล้วคุณก็อาจค้นหาเส้นทางชีวิตตัวเองได้ ว่าจริงๆ ถ้าเกิดเรายังไม่ใช่ เราไม่เข้าใจกับชีวิตปัจจุบันที่มันเป็นอยู่ ซึ่งเชียงดาวเป็นพื้นที่ที่สร้างโอกาส โดยเฉพาะโอกาสที่เรียนรู้กับสิ่งที่มันเป็นธรรมชาติและภูมิปัญญา ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสนใจอะไร บางคนสนใจเรื่องผ้า บางคนสนใจเรื่องสี บางคนสนใจเรื่องไม้ไผ่ บางคนสนใจเรื่องดิน ก็แล้วแต่ว่าคุณจะโฟกัส อย่างน้อยๆ มันก็เปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้
ทำไมเลือกทำเรื่องผ้ามัดย้อมคราม? แล้วที่นี่ต่างจากการย้อมครามของที่อื่นยังไง?
ศิริพร: เราชอบงานผ้ามัดย้อมมานานแล้ว พอเริ่มสนใจ ก็พยายามไปศึกษาเรียนรู้ องค์ความรู้ที่เราได้ร่ำเรียนมา เราก็ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาหมด ไปเรียนเรื่องมัดย้อมกับครูที่อีสาน ไปเรียนรู้ที่ญี่ปุ่นด้วย แล้วก็มาประมวลความรู้เรื่องการย้อมผ้า
การย้อม ก็ต้องมีวิทยาศาสตร์เรื่องครามด้วยนะ คือถ้าเราเข้าใจที่มาที่ไป กระบวนการทำงานของคราม เราก็จะรู้สึกอิสระมากขึ้นในการที่จะอยู่กับเขา แต่ถ้าอย่างทางอีสาน เขาจะมีองค์ความรู้ในรูปแบบการบอกเล่าจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งจะแฝงเรื่องของความเชื่อด้วย ทำให้เขาจะไม่ค่อยกล้าที่จะแหกขนบ
แต่ถ้าเกิดว่าเรามาขยับอีกมุมหนึ่ง คือ เรียนรู้ครามแบบวิทยาศาสตร์ ก็จะทำให้เราเข้าใจว่าที่มันเกิดปัญหาขึ้นมา เราไล่ดูได้ว่าอาจจะด่างน้อยไปหรือว่าเปรี้ยวน้อยไป อุณหภูมิไม่พอ อะไรแบบนี้ มันก็จะสนุกกับคราม แล้วก็จะรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่ว่าครามคือ พระเจ้า เราก็จะถอดความรู้ออกมาเป็นวิทยาศาสตร์ แล้วเราสามารถออกแบบ ให้เป็นอิสระ ว่าจะให้เป็นสไตล์ไหน ซึ่งเราจะเลือกวัตถุดิบที่ให้สีให้มันมีความคงทนด้วย อย่างเช่น ก่อนที่จะลงมือมัดย้อม เราจะเอาผ้าไปเคลือบกับน้ำถั่วเหลืองก่อน เพื่อให้ครามติดเนื้อผ้าคงทน อย่างนี้เป็นต้น
คุณอาจจะมานั่งย้อนคิดทบทวนตัวเอง แต่ละคนอาจจะมีคำถามในใจ ว่าปัจจุบันนี้เหนื่อยยาก วุ่นวาย เสียเวลา เครียด แต่ว่าจะหาทางออก แต่ยังอยู่ในพื้นที่เก่าๆ มันก็ยาก แต่ถ้าย้ายมาอยู่ในที่ใหม่ๆ อะไรที่เคยมีคำถามลึกๆ ในใจ มันอาจจะมีแสงสว่างนิดๆ เข้ามา คุณก็แค่วิ่งตามแสงนั้นไป แล้วคุณก็อาจค้นหาเส้นทางชีวิตตัวเองได้
เล่าถึงความตั้งใจของ สตูดิโอ เชียงดาวบลู
ศิริพร: เราก็อยากให้เด็กและผู้ใหญ่ที่สนใจเรื่องมัดย้อมได้มาเรียนรู้กันด้วย เพราะที่นี่เราทำผ้ามัดย้อมด้วยครามแบบครบวงจรเลย ตั้งแต่การลงมือเพาะเมล็ดพันธุ์ ลงมือปลูกครามและห้อมเอง ไปจนถึงการออกแบบ การย้อมคราม เด็กๆ ที่มาเรียนกับเรา ก็จะมีความสุข มีความภูมิใจมาก ที่ได้ออกแบบลวดลายของตัวเอง ลงมือย้อมเอง จนได้ผ้ามัดย้อมผืนเดียวในโลกที่มีลวดลายไม่เหมือนใคร
ทุกวันนี้ สตูดิโอ เชียงดาวบลู เราจึงมีผลิตภัณฑ์งานผ้ามัดย้อมหลากหลาย มีคนสนใจมาเรียน และสั่งซื้อผ้ามัดย้อม ทั้งที่เป็นเสื้อผ้า ผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียง ผ้าคลุมโต๊ะ ซึ่งถือว่างานมัดย้อมด้วยครามนั้นสอดคล้องกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและวิถีชุมชนได้เป็นอย่างดี
ไม่ใช่ว่าครามคือ พระเจ้า เราก็จะถอดความรู้ออกมาเป็นวิทยาศาสตร์ แล้วเราสามารถออกแบบ ให้เป็นอิสระ ว่าจะให้เป็นสไตล์ไหน ซึ่งเราจะเลือกวัตถุดิบที่ให้สีให้มันมีความคงทนด้วย อย่างเช่น ก่อนที่จะลงมือมัดย้อม เราจะเอาผ้าไปเคลือบกับน้ำถั่วเหลืองก่อน เพื่อให้ครามติดเนื้อผ้าคงทน อย่างนี้เป็นต้น
ถ้ามองว่า สตูดิโอ เชียงดาวบลู เป็นศูนย์การเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน อยากให้ช่วยสะท้อนมุมมองไปที่การศึกษาของไทยว่าเป็นอย่างไร สอดคล้องกับแต่ละท้องถิ่นหรือไม่อย่างไร?
ศิริพร: จริงๆ แล้วในแต่ละพื้นที่ก็มีการศึกษาทางเลือก มีหลากหลายนะ แต่ว่าระบบการศึกษาไทยโดยเฉพาะในระบบ ยังมองไม่ทะลุตรงนั้น
ระบบการศึกษาไทย เป็นระบบซึ่งมันยากที่จะบริหารจัดการให้มันหลากหลาย คือ ก่อนหน้านั้น เป็นปรัชญาการสร้างคนในระบบโรงงาน ซึ่งตอนนี้มันล้าสมัยแล้ว มันไม่ตอบโจทย์แล้ว ตอนนี้ก็น่าเห็นใจเด็กๆ ทำไมเราต้องไปเดินอยู่ในกรอบเก่าๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว ศักยภาพของเด็กนั้นมีมากกว่าผู้ใหญ่นะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจินตนาการ มีความเป็นอิสระไม่มีที่สิ้นสุด พลังงานก็มี แค่คุณจัดจัดสรรสิ่งแวดล้อม หรือโอกาสให้มันถูกต้องนะ เด็กก็จะสามารถมีชีวิตเหมือนกับต้นไม้ ถ้าเราพาไปในที่ๆ ไม่ถูกกับเขา เขาก็ยังแคระแกรนอยู่ตรงนั้น แต่แค่เราย้ายมาอยู่ให้ถูกที่ โอ้โห... เด็กมันเกิดการพัฒนา เกิดการเปลี่ยนแปลง
ระบบการศึกษาไทย เป็นระบบซึ่งมันยากที่จะบริหารจัดการให้มันหลากหลาย คือ ก่อนหน้านั้น เป็นปรัชญาการสร้างคนในระบบโรงงาน ซึ่งตอนนี้มันล้าสมัยแล้ว มันไม่ตอบโจทย์แล้ว
อย่างเช่น การพาเด็กมาเรียนเรื่องมัดย้อมในครั้งนี้ เราแค่พูดกับเด็กนิดเดียว พอเขาเริ่มเข้าใจ เราก็ปล่อยเลย เด็กสามารถลงมือทำกันได้เลย และสีหน้าแววตาของแต่ละคนนั้นมีความสุขมาก กิจกรรมการเรียนรู้แบบนี้ เด็กๆ ได้เรียนรู้การย้อมครามเบื้องต้น ออกแบบลายมัดย้อม จนเด็กๆ ได้ผ้ามัดย้อมกลับบ้านด้วยความภูมิใจ ที่มีเพียงชิ้นเดียวที่ไม่เหมือนใครในโลกด้วย
สตูดิโอ เชียงดาวบลูมีกิจกรรมที่น่าสนใจอะไรบ้าง?
ศิริพร: สตูดิโอ เชียงดาวบลู ของเรา จะมีเวิร์คช็อปย้อมครามธรรมชาติแบบครึ่งวันและเต็มวัน ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่สนใจมาเรียนรู้ลงมือทำกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น เรายังมีแกลเลอรี่และร้านค้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมด้วย
สตูดิโอ เชียงดาวบลู เปิดบริการตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น.
ผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่ 290 หมู่ 3 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 50170
โทรศัพท์ 086 011 7551
หรือเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ เฟสบุ๊กเพจ Studio Chiangdao Blue