Skip to main content

เร่งจัดระเบียบเรือนำเที่ยวอ่าวปิเละ-พีพีเล หวั่นเกิดเหตุอันตรายทางน้ำ

22 กุมภาพันธ์ 2567

ทส.จัดระเบียบเรือหลายร้อยลำ ที่พานักท่องเที่ยวเข้าชมความงามอ่าวปิเละ-พีพีเล แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเกาะพีพี หวั่นเกิดเหตุอันตรายทางน้ำ บูรณาการส่วนราชการและส่วนที่เกี่ยวข้องลุยตรวจ พร้อมเชิญผู้ประกอบการหารือเร่งด่วนเพื่อขอความร่วมมือ

นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นายเพิ่มศักดิ์ คงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 สั่งการให้อุทยานแห่งชาติฯ จัดการดูแลสถานที่แหล่งท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ให้ควบคุมดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว บริหารจัดการเพื่อจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับพื้นที่ ไม่ให้เกิดภาพความแออัด ให้ท่องเที่ยวอย่างสะดวกและปลอดภัย

นายยุทธพงค์ กล่าวว่า ได้บูรณาการร่วมหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง นำเรือตรวจการณ์สำรวจบริเวณแหล่งท่องเที่ยวอ่าวปิเละ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังรองอันดับ 2 จากอ่าวมาหยา ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ พบในอ่าวปิเละ มีการสัญจรของเรือหนาแน่น ทั้งมลพิษกลิ่นควันจากท่อไอเสียของเรือ มลพิษด้านเสียง กลิ่นน้ำมัน อีกทั้งนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำนอกแนวเขตทุ่นไข่ปลา หวั่นเกิดอุบัติเหตุอันตรายขึ้นแก่นักท่องเที่ยว จึงเร่งหาแนวทาง "ล้อมคอกก่อนวัวหาย"

หน.อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เผยอีกว่า ในที่ประชุม อุทยานแห่งชาติฯ ได้รายงานสภาพปัญหาการท่องเที่ยวบริเวณอ่าวปิเละ และศักยภาพการท่องเที่ยวตามหลักวิชาการ โดยอ่าวปิเละ หรือปิเละ ลากูน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีลักษณะโดดเด่น สวยงาม ตั้งอยู่ที่เกาะพีพีเล มีแอ่งน้ำลักษณะคล้ายกับลากูน โดยเป็นแอ่งถูกล้อมรอบด้วยหน้าผาสูง น้ำทะเลสดใสเขียวมรกต เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และอยู่ใกล้กับอ่าวมาหยาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอุทยานฯ

"ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวอ่าวปิเละ มีเรือนำเที่ยวและนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันมีเรือเข้าไปท่องเที่ยว เฉลี่ยประมาณ 120 ลำ ประกอบด้วย เรือหางยาว เรือสปีดโบ๊ท ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่ เป็นการเข้าไปให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ และว่ายน้ำ ด้วยความหนาแน่นของเรือที่เกิดจากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ ทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย มีภูมิทัศน์ไม่สวยงาม เกิดมลพิษ ทั้งทางด้านเสียงจากเครื่องยนต์เรือ และมลพิษทางอากาศ" นายยุทธพงค์ กล่าว  

นายยุทธพงค์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่เข้าไปได้รับโดยตรง ปัญหาดังกล่าวจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะหาแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหา ซึ่งต้องบูรณาการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่และต่างพื้นที่ที่เข้ามาใช้ประโยชน์ เพื่อที่จะหาแนวทางกำหนดกฎกติกาในการจัดระเบียบการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ

เพื่อสามารถจัดการแหล่งท่องเที่ยวและใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน โดยอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ ได้ดำเนินการของบประมาณในการติดตั้งท่าเทียบเรือลอยน้ำ และทุ่นไข่ปลา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้า-ออกของเรือ และอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงเพิ่มทุ่นจอดเรือให้ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวทุกแหล่ง เพื่อป้องกันมิให้มีการทิ้งสมอเรือ หรือท่องเที่ยวที่อันจะเกิดผลกระทบต่อปะการังในแหล่งท่องเที่ยว โดยที่ประชุมดังกล่าวได้ร่วมกันหารือปัญหา และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา และได้มีมติที่ร่วมกันที่ในการจัดระเบียบการท่องเที่ยวในอ่าวปิเละลากูน ในเบื้องต้น ดังนี้

1. ลดจำนวนเรือหางยาวที่ไม่มีนักท่องเที่ยว โดยไม่ให้ เข้าไปจอดหรือดำเนินการเปลี่ยนถ่ายนักท่องเที่ยวจากเรือสปีดโบ๊ทไปยังเรือหางยาวภายในอ่าวปิเละ  ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงสามารถลดปัญหามลภาวะทางเสียงและอากาศในพื้นที่ได้

2. จัดโซนเล่นน้ำภายในอ่าวปิเละ ให้เล่นเฉพาะจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้เท่านั้น

3. จัดทำเสาแสดงระดับน้ำขึ้นลงด้านหน้าอ่าวเพื่อจำกัดช่วงเวลาเข้าออกของเรือทั้งนี้อุทยานแห่งชาติมีแผนงานแก้ไขปัญหาจัดระเบียบเรือในพื้นที่ดังกล่าว  3 มาตรการ ดังนี้

มาตรการที่ 1 การจัดการด้านพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในแหล่งท่องเที่ยว
1.1 เพิ่มทุ่นจอดเรือบริเวณหน้าอ่าวปิเละ เพื่อรองรับการจอดเรือของเรือสปีดโบ๊ท/กรณีน้ำลดลงต่ำที่เรือขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปได้
1.2 ของบสนับสนุนในการจัดตั้งทุ่นลอยน้ำสำหรับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำอ่าวปิเละ
ในการควบคุมตรวจสอบการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
1.3 ของบประมาณจัดทำทุ่นจอดเรือภายในอ่าวปิเละ เพื่อรองรับการจอดเรือ สำหรับกำหนดรอบในการเข้าไปท่องเที่ยว

มาตรการที่ 2 จัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย 
2.1 ร่วมหารือแนวทางการจัดระเบียบปริมาณเรือที่เข้า-ออก ไปใช้พื้นที่อ่าวปิเละ เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่น และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
2.2 นำความเห็นเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติ  (PAC) เพื่อขอมติรับรองการดำเนินการตามมาตรการแนวทางการจัดระเบียบและข้อปฏิบัติในการเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวปิเละลากูน ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 นี้
2.3 ออกมาตรการกำหนดแนวทางการจัดระเบียบและข้อปฏิบัติในการเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวปิเละลากูน พร้อมประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องทราบ
2.4 ดำเนินการมาตรการแนวทางการจัดระเบียบและข้อปฏิบัติในการเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวปิเละลากูน พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงานตรวจสอบควบคุม ให้เป็นไปตามเป้าหมาย

มาตการที่ 3 ตรวจสอบร่วมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุม ดูแล การท่องเที่ยวทางเรือ
3.1 เรือที่เข้าไปท่องเที่ยวและให้บริการนักท่องเที่ยว ต้องได้รับอนุญาตประกอบกิจการท่องเที่ยวจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
3.2 เรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยวต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.3 ผู้ขับเรือ ต้องผ่านการฝึกอบรม เกี่ยวกับการให้บริการนักท่องเที่ยว การช่วยปฐมพยาบาลขั้นต้นหรือด้านอื่นๆ ที่จะช่วยยกระดับการท่องเที่ยวโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อม

จากการประชุมดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเรือหางยาว ผู้ประกอบธุรกิจบนเกาะพีพี รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่เข้ามาท่องเที่ยว ที่จะดำเนินการตามแนวทางและกฎระเบียบที่กำหนด เพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวได้รับการจัดการที่เหมาะสม สามารถใช้อำนวยประโยชน์ทางด้านการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนต่อไป

มาหยา
มาหยา
ปิเละ
ปิเละ
ปิเละ
ปิเละ
เนื้อหาล่าสุด