อดีต ผจก.ทิ้งเงินเดือนสุดท้ายเกือบครึ่งแสน กลับบ้านเกิดมาเลี้ยงปลาดุกขายเสริมรายได้ครอบครัว ยึดหลักพอเพียงเลี้ยงชีพ มองความสุขที่แท้จริงและยังยืนอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น และได้สูดอากาศบริสุทธิ์
นายดุสิต กาชัย อายุ52ปี ชาวบ้านห้วยกนทา ตำบลคูเมือง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้จัดการ เงินเดือน 45,700 บาท ถือว่าเป็นช่วงที่มีทั้งตำแหน่งหน้าที่การงาน รวมทั้งเงินเดือนที่ดีที่สุด แต่ต้องยอมทิ้งความสุขที่คนส่วนใหญ่คิดว่านั่นคือความสุขที่วิ่งตามหา ซึ่งในความคิดของตนคิดว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ความสุขที่แท้จริงและยั่งยืนมันคือการได้อยู่ได้กินโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้อื่น และที่สำคัญได้มีชีวิตสูดอากาศบริสุทธิ จึงตัดสินใจเดินหันหลังให้กับตำแหน่งมนุษย์เงินเดือนอย่างไม่มีวันหวนกลับ
นายดุสิต เล่าเพิ่มเติมว่า กว่า 20 ปี ที่พลิกฟื้นผืนดินที่ว่างเปล่า ปลูกกระท่อมเล็กๆ ปลูกผักผลไม้ทุกชนิดที่กินได้ ขุดบ่อเก็บน้ำ ขุดคลองเล็กๆ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ และที่สร้างรายได้เสริมเป็นอย่างดีในครอบครัวคือการเลี้ยงปลาดุก ในบ่อดินใช้เวลาเลี้ยงเพียง 3-4 เดือน สามารถจับขายได้ ในช่วงเย็นทุกวันตนจะคัดปลาดุกที่ได้ขนาดขึ้นมาพักไว้ที่บ่อซีเมนต์ เพื่อเตรียมขายในช่วงเช้าของวันใหม่
โดยในทุกเช้าของแต่ละวันจะมีพ่อค้า แม่ค้าเดินทางเข้ามาซื้อในไร่ของตน ส่วนที่เหลือในบ่อก็จะนำออกไปวางขายข้างทาง ในหมู่บ้านห้วยคนทา ราคาที่ขายนั้นอยู่ที่กิโลกรั้มละ 60 บาท วันหนึ่งขายได้ประมาณ 20-30 กิโลกรัม มีรายได้จากการขายปลาดุกเฉลี่ยเดือนละประมาณ 36,000 บาท ถึงจะเป็นรายได้ที่ไม่มากเท่ากับเงินเดือนเดือนสุดท้ายที่ได้รับ คือ 45,700บาท ก็ตาม
"แต่สิ่งที่ภาคภูมิใจและคิดว่าได้มากกว่าคือ การได้เดินทางย้อนกลับมาดำเนินชีวิต ตามแนวพระราชดำริ ไม่ใช่รายได้จากการขายผักขายปลา แต่มันคือความสุขที่ไม่ต้องเจ็บป่วยเนื่องจากได้สูดอากาศดีๆ กินอาหารปลอดสารเคมี และที่สำคัญได้มีโอกาสช่วยเหลือชุมชนที่มีรายได้ไม่เพียงพอ ได้อาศัยครอบครัวตนเป็นแหล่งอาหาร มีเงิน10-20บาท ก็สามารถเดินมาเลือกซื้อ อาหารในนาของตนได้ หรือบางครอบครัวไม่มีเงินแต่มีมะพร้าว มีผักที่ปลูกไว้ก็สามารถนำมาแลกปลาและอาหารอื่นๆ ได้ตลอดเวลา" นายดุสิต กล่าว
