การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทยในปี 2566 มีสัดส่วนเพียง 17.3% ของการส่งออกทั้งหมด ส่วนที่เหลือ 78.6% เป็นสินค้าอุตสาหกรรม ทำให้เห็นว่า สินค้าเกษตรยังคงมีบทบาทน้อยเมื่อเทียบกับสินค้าอุตสาหกรรม แต่ในรายละเอียดพบว่า สินค้าเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ผลไม้ ข้าว ไก่ มันสำปะหลัง และยางพารา มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็น 87.7% ของการส่งออกเกษตรทั้งหมด และการส่งออกสินค้าส่วนใหญ่ไปยังจีนซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 42%
จากข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พบว่าในช่วง 10 เดือนของปี 2566 การค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลกมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 0.80% โดยมีการขยายตัวในตลาดอาเซียน จีน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งแสดงถึงการคงทนต่อความต้องการในตลาดโลก แต่ในทางกลับกัน การพึ่งพาสินค้าและตลาดหลักเพียงไม่กี่รายการยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แนะนำให้เพิ่มความหลากหลายของสินค้าและขยายตลาดใหม่ ๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดหลักเพียงไม่กี่แห่ง
5 สินค้าเกษตรที่ส่งออกมากที่สุดในปี 2566
- ผลไม้ - มูลค่า 6,941.6 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 25.9% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร
- ข้าว - มูลค่า 5,144.4 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 19.2%
- ไก่ - มูลค่า 4,082.3 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 15.2%
- มันสำปะหลัง - มูลค่า 3,704.4 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 13.8%
- ยางพารา - มูลค่า 3,648.6 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 13.6%
สินค้าทั้ง 5 รายการนี้รวมกันมีสัดส่วนถึง 87.7% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด ทำให้เห็นได้ชัดว่า การพึ่งพาสินค้าหลักไม่กี่รายการยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องการการแก้ไขเพื่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว
ตลาดส่งออกที่พึ่งพาสูงสุด
- จีน - มูลค่าการส่งออก 11,262.3 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 42.0% ของการส่งออกสินค้าเกษตร
- ญี่ปุ่น - มูลค่า 3,206.0 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 12.0%
- สหรัฐฯ - มูลค่า 1,506.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 5.6%
- มาเลเซีย - มูลค่า 1,189.0 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 4.4%
- อินโดนีเซีย - มูลค่า 940.1 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 3.5%
ตลาดทั้ง 5 แห่งนี้รวมกันคิดเป็น 67.5% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด แสดงถึงการพึ่งพาตลาดหลักเพียงไม่กี่แห่งซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
4 เดือนแรกของปี 2567 ไทยเกินดุลการค้าสินค้าเกษตรกว่า 3.4 แสนล้านบาท
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาพรวมการค้าสินค้าเกษตรของไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม - เมษายน 2567) พบว่า ไทยมีมูลค่าการค้ารวม 822,559 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.43% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยการส่งออกมีมูลค่า 584,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% ขณะที่มูลค่านำเข้าอยู่ที่ 237,998 ล้านบาท ลดลง 2.2% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 346,563 ล้านบาท
การค้ากับกลุ่มประเทศต่างๆ
- โลก: มูลค่าการค้า 822,559 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.43% และเกินดุลการค้า 346,563 ล้านบาท
- อาเซียน (9 ประเทศ): มูลค่าการค้า 216,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.09% เกินดุลการค้า 83,950 ล้านบาท
- จีน: มูลค่าการค้า 165,037 ล้านบาท ลดลง 12.48% แต่เกินดุลการค้า 103,609 ล้านบาท
- สหรัฐอเมริกา: มูลค่าการค้า 70,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.45% เกินดุลการค้า 42,393 ล้านบาท
- ญี่ปุ่น: มูลค่าการค้า 59,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.79% เกินดุลการค้า 50,750 ล้านบาท
- ออสเตรเลีย: มูลค่าการค้า 22,886 ล้านบาท ลดลง 18.30% แต่ยังคงเกินดุลการค้า 1,182 ล้านบาท
ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนและสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การค้ากับจีนลดลง แต่ไทยยังคงเกินดุลการค้าอย่างมีนัยสำคัญ
สินค้าเกษตรที่มีการส่งออกสูงสุด
- ข้าว - มูลค่า 70,158 ล้านบาท
- ทุเรียน - มูลค่า 40,578 ล้านบาท
- ยางธรรมชาติ - มูลค่า 35,377 ล้านบาท
- ไก่ปรุงแต่ง - มูลค่า 32,809 ล้านบาท
- อาหารสุนัขหรือแมว - มูลค่า 29,516 ล้านบาท
สินค้านำเข้าสำคัญ
- ถั่วเหลือง - มูลค่า 23,536 ล้านบาท
- มันสำปะหลัง - มูลค่า 16,339 ล้านบาท
- กากน้ำมันถั่วเหลือง - มูลค่า 14,450 ล้านบาท
- ปลาสคิปแจ็คแช่แข็ง - มูลค่า 12,192 ล้านบาท
- อาหารปรุงแต่ง - มูลค่า 11,099 ล้านบาท
นายฉันทานนท์กล่าวเพิ่มเติมว่า การค้าสินค้าเกษตรในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 เป็นไปในทิศทางที่ดี แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ แต่ไทยยังคงสามารถรักษาความได้เปรียบดุลการค้าไว้ได้ ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการพัฒนาสินค้าเกษตรและการผลักดันให้ประเทศคู่เจรจา FTA เปิดตลาดสินค้าเกษตรสำคัญของไทย
ในสรุป สินค้าเกษตรไทยยังคงต้องการการพัฒนาและการกระจายความเสี่ยงในการส่งออกทั้งในด้านของผลิตภัณฑ์และตลาด เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในระยะยาว