Skip to main content

ทรัพยากรมนุษย์ของไทยน่าห่วง เมื่ออัตราเกิดต่ำต่อเนื่อง

28 กรกฎาคม 2567

 

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อัตราการเกิดต่ำและจำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชากรในวัยเด็กและวัยทำงานลดลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์นี้ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและรอบคอบ เพื่อให้สามารถรักษาสมดุลของประชากรและสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวไทย

โครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัยสมบูรณ์: ความท้าทายของครอบครัวไทย

ในปี 2021 ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัยสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อโครงสร้างครอบครัวและการพัฒนาของเด็กและเยาวชน ครอบครัวไทยมีขนาดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง และมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งทำให้การสนับสนุนสุขภาวะและการพัฒนาของเด็กและเยาวชนมีประสิทธิภาพน้อยลง ส่งผลให้เด็กไทยมีความเปราะบางมากขึ้น .

เกิดน้อย อายุยืน: ความท้าทายโครงสร้างประชากรครั้งสำคัญของไทย

โดยในปี 2021 สัดส่วนประชากรสูงอายุในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 (ประมาณ 15.2 ล้านคน) ของจำนวนประชากรทั้งหมด เป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกในโลกที่เข้าสู่สภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ สหประชาชาติยังคาดการณ์ว่าสัดส่วนประชากรสูงอายุจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (super aged society) ภายในปี 2033 หรือประมาณ 10 ปีข้างหน้า .

ในปี 2021 ยังเป็นครั้งแรกที่จำนวนเด็กเกิดใหม่น้อยกว่าจำนวนผู้เสียชีวิต การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น ค่านิยมในการสร้างครอบครัวที่เปลี่ยนไป ค่าใช้จ่ายในการดูแลและสนับสนุนลูกที่สูงขึ้น รวมถึงการทุ่มเวลาเพื่อสร้างความมั่นคงด้านการงานและฐานะของคนรุ่นปัจจุบัน จนทำให้การมีลูกกลายเป็นเป้าหมายในชีวิตที่สำคัญน้อยลง .

ขนาดครอบครัวไทยเล็กลงต่อเนื่อง

ขนาดครอบครัวไทยเล็กลงจากประมาณ 5-6 คนในช่วง 3 ทศวรรษก่อน เหลือเพียง 2.4 คนในปี 2020 และมีแนวโน้มเล็กลงต่อไปในอนาคต ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสมาชิกไม่เกิน 3 คน นอกจากนี้ ครอบครัวอยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนถึงความท้าทายในการสนับสนุนสุขภาวะและพัฒนาการของเด็กและเยาวชนไทยในอนาคต .

ความสูญเสียช่วงโควิด-19: ปัญหาเด็กกำพร้า

วิกฤตโควิด-19 ทำให้จำนวนเด็กกำพร้าเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน กรมกิจการเด็กและเยาวชนพบว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2021 ถึงเดือนมีนาคมปี 2022 มีเด็ก 448 คนที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าเนื่องจากผู้ปกครองเสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุ 6-18 ปี เด็กเล็กอาจเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการดูแลด้านร่างกายและพัฒนาการอย่างเหมาะสม มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็น และหลุดออกจากระบบการศึกษา นอกจากนี้ การเผชิญกับการสูญเสียบุคคลสำคัญในครอบครัวอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของเด็ก ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล และอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ .

ในช่วงกว่า 100 ปีที่ผ่านมา อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 32 ปีในปี 1900 เป็น 71 ปีในปี 2020 การมีอายุยืนยาวมากขึ้นทำให้มนุษย์มีโอกาสอยู่ร่วมกับคนต่างรุ่นมากขึ้น โดยในปัจจุบันโลกมีคน 7 รุ่นอาศัยอยู่ร่วมกัน ความไม่ลงรอยกันระหว่างคนต่างรุ่นกลายเป็นปัญหาทางสังคมและการเมืองที่สำคัญในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย .

นโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร: แนวทางแก้ไขที่ครอบคลุม

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ภายใต้การนำของนายวราวุธ ศิลปอาชา ได้จัดทำ "สมุดปกขาว ข้อเสนอเชิงนโยบายวิกฤตประชากรและสังคมสูงวัย" หรือที่เรียกว่านโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างครบวงจร นโยบายนี้ประกอบด้วยข้อเสนอหลัก 5 ประการ:

  1. เสริมพลังวัยทำงาน: ส่งเสริมการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ เพิ่มพูนทักษะ (Reskill / Upskill) เพื่อรองรับอาชีพใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นและสร้างงานที่มีคุณค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในชุมชน
  2. เพิ่มคุณภาพเด็กและเยาวชน: การดูแลสวัสดิการเด็กเล็ก โดยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในการลดเพดานอายุเด็กในสถานเลี้ยงดูเด็กเล็กจาก 3 ขวบ เหลือ 3 เดือน เพื่อให้คุณแม่ที่ลาคลอดครบ 98 วัน สามารถนำลูกไปฝากเลี้ยงที่ศูนย์ได้ หรือการให้สถานที่ทำงานจัดพื้นที่สำหรับดูแลเด็กเล็ก
  3. สร้างพลังผู้สูงอายุ: เพิ่มโอกาสและคุณค่าของผู้สูงอายุในสังคม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ และการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร
  4. เพิ่มโอกาสและคุณค่าคนพิการ: สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพและการมีส่วนร่วมในสังคม ส่งเสริมการจ้างงานและการเข้าถึงบริการสาธารณะ
  5. สร้างระบบนิเวศเพื่อความมั่นคงของครอบครัว: สนับสนุนการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์และยั่งยืน ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีความต้องการที่จะมีครอบครัวและบุตร

บทบาทของสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย (สวท)

สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย (สวท) มีบทบาทสำคัญในการร่วมมือกับกระทรวง พม. ในการหาทางออกให้กับวิกฤตประชากรที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ โดยการจัดการเสวนาวิชาการเรื่อง "การวางแผนครอบครัวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรทุกช่วงวัย" ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวง พม. และ สวท เป็นก้าวสำคัญในการถกถึงวิกฤตประชากรและหาทางออกที่จะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรทุกช่วงวัย

ความท้าทายในอนาคต

การลดจำนวนประชากรทำให้เกิดความท้าทายในการรักษาสมดุลของประชากรและการพัฒนาคุณภาพชีวิต การร่วมมือจากทุกภาคส่วนและการนำเสนอนโยบายที่มีความยั่งยืนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรทุกช่วงวัยจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับวิกฤตประชากรและสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนได้

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขและวางแผนอย่างรอบคอบ การร่วมมือจากทุกภาคส่วนและการนำเสนอนโยบายที่มีความยั่งยืนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรทุกช่วงวัยจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับวิกฤตประชากรและสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนได้

ที่มา: กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว (คิด for คิดส์). (2562). เด็กและครอบครัวไทยในสามวิกฤต : รายงานสถานการณ์เด็ก เยาวชน และครอบครัว ปี 2022. https://drive.google.com/drive/folders/18r5A8I39vqUUbr2L0Ctwl7NpROwgQ-Ko

ภาพโดย PublicDomainPictures จาก Pixabay

เนื้อหาล่าสุด