วิกฤติประชากรไทยกำลังสร้างแรงกดดันอย่างมหาศาลต่อทุกภาคส่วนของสังคม โดยเฉพาะเมื่อประชากรสูงอายุเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ในการประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 6 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "เปลี่ยนพลังผู้สูงวัยเป็นกลไกขับเคลื่อน Soft Power อย่างยั่งยืน" โดยได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม
วิกฤติประชากรไทย: สถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรอย่างรวดเร็ว โดยมีจำนวนผู้สูงอายุมากถึง 13.06 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ขณะที่เด็กเกิดใหม่มีเพียง 5.18 แสนคน ทำให้วัยแรงงานต้องรับภาระมากขึ้นและสถาบันครอบครัวไทยกำลังเลือนหาย ครัวเรือนที่อยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2576 ประเทศไทยจะมีประชากรผู้สูงอายุสูงถึง 18.38 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด
ยุทธศาสตร์ 5 x 5 ฝ่าวิกฤตประชากร: การเสริมพลังผู้สูงอายุ
กระทรวง พม. ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาความมั่นคงครอบครัวไทย ผ่านพ้นภัยวิกฤตประชากร” และได้เสนอแผนยุทธศาสตร์ 5 x 5 ฝ่าวิกฤตประชากร ซึ่งรวมถึงยุทธศาสตร์ที่ 3 ที่เกี่ยวข้องกับการเสริมพลังผู้สูงอายุ โดยมีมาตรการสำคัญ 5 มาตรการ ดังนี้:
มาตรการที่ 1: การป้องกันโรคมากกว่ารักษาโรค
การเสริมสร้างพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ที่มักเกิดขึ้นในวัยสูงอายุ
มาตรการที่ 2: การขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้ผู้สูงอายุ
การขยายอายุเกษียณ ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ พัฒนาทักษะที่จำเป็น และส่งเสริมความรอบรู้ด้านดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถมีรายได้และมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน
มาตรการที่ 3: การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน
การสร้างระบบการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนโดยชุมชน เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่ในชุมชนได้ยาวนานที่สุด
มาตรการที่ 4: การส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้สูงอายุ
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการทำกิจวัตรประจำวันและการมีส่วนร่วมทางสังคมของผู้สูงอายุ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางภูมิอากาศ
มาตรการที่ 5: การเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ
การสร้างระบบการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุในทุกมิติ เพื่อให้การดูแลและการพัฒนาผู้สูงอายุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการที่เป็นรูปธรรมในการเสริมพลังผู้สูงอายุ
โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน
ปี 2567 ได้นำร่องใน 19 พื้นที่ 12 จังหวัด มีผู้สูงอายุได้รับการดูแลจำนวน 73,642 คน และตั้งเป้าขยายผลทั่วประเทศ
การจัดตั้งศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) หรือ HuSEC
ผ่านสายด่วน พม. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้การช่วยเหลือกว่า 42,120 กรณี เป็นผู้สูงอายุ 5,371 กรณี
การพัฒนาทักษะอาชีพและการเสริมความรอบรู้ด้านดิจิทัลเทคโนโลยี
ร่วมกับลาซาด้าไทยแลนด์และทรู – ดีแทค จัดทำ “หลักสูตรสูงวัยรู้ทันสื่อ” เพื่อให้ผู้สูงอายุปลอดภัยจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
การปรับสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ
การพัฒนาทักษะ "ช่างชุมชน" เพื่อช่วยปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้กับผู้สูงอายุ และการปรับปรุงสถานที่สาธารณะตามหลักอารยสถาปัตย์ให้ปลอดภัยต่อการดำเนินชีวิต
บทสรุป
นายวราวุธ กล่าวว่า ผู้สูงอายุทุกท่านล้วนเป็นผู้มากประสบการณ์และความรู้ที่มีคุณค่า ดังนั้นการดึงศักยภาพเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสถานการณ์ต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ผู้สูงอายุไม่ใช่เพียง Soft Power แต่คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้เกิดอิทธิพลทางความคิดและวัฒนธรรม ซึ่งการร่วมมือกันนี้จะนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนสำหรับทุกกลุ่มคน
แหล่งที่มา:
ข้อมูลจากการปาฐกถาพิเศษของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในงานประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 6 ปี 2567 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2567