Skip to main content

สถานการณ์ผู้สูงอายุไทยในแง่ของการประกอบอาชีพและการมีรายได้: ปัญหาที่น่าห่วง

28 กรกฎาคม 2567

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 และคาดว่าจะกลายเป็นสังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2564 และในปี พ.ศ. 2578 ประชากรสูงอายุจะมีถึงร้อยละ 30 ของจำนวนประชากรทั้งหมด

การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบอาชีพและการมีรายได้ของผู้สูงอายุพบว่ามีปัญหาหลายประการที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ข้อมูลล่าสุดจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แสดงให้เห็นว่ามีผู้สูงอายุมากกว่า 1 ล้านคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ นอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังจำนวน 1,348,397 คน และผู้สูงอายุที่ดูแลกันเองโดยไม่มีบุตรหลานดูแลถึง 610,405 คน

การประกอบอาชีพของผู้สูงอายุ

เปิดสถิติจากกรมพัฒนาผู้สูงอายุ ปี 2566 จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่ได้ประกอบอาชีพมีทั้งสิ้น  1,107,567 คน

จังหวัดที่มีจำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่:

  • นครราชสีมา: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 54,174 คน
  • เชียงใหม่: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 43,835 คน
  • นครศรีธรรมราช: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 38,198 คน
  • ลำปาง: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 33,520 คน
  • เชียงราย: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 33,077 คน
  • อุบลราชธานี: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 31,946 คน
  • ขอนแก่น: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 31,818 คน
  • สุรินทร์: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 31,355 คน
  • บุรีรัมย์: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 29,258 คน
  • ศรีสะเกษ: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 29,083 คน

ปัญหาการว่างงานในกลุ่มผู้สูงอายุนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวล เนื่องจากผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพจะประสบปัญหาทางด้านการเงินและการดำรงชีวิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพของพวกเขา

การอยู่ลำพังและการดูแลกันเอง

จากการวิเคราะห์ข้อมูลยังพบว่า:

  • มีผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังถึง 1,348,397 คน ซึ่งสะท้อนถึงการขาดการสนับสนุนจากครอบครัวหรือชุมชน
  • ผู้สูงอายุที่ดูแลกันเองโดยไม่มีบุตรหลานดูแลมีจำนวนถึง 610,405 คน แสดงถึงความจำเป็นในการสนับสนุนและการจัดการเพื่อให้ผู้สูงอายุเหล่านี้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม

สถานการณ์ผู้สูงอายุในประเทศไทยในแง่ของการประกอบอาชีพและการมีรายได้เป็นปัญหาที่น่าห่วง การที่มีผู้สูงอายุมากกว่า 1 ล้านคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ และผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังและดูแลกันเองจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ต้องการการแก้ไขและการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี

การวางแผนและการดำเนินนโยบายที่เหมาะสมในการสนับสนุนผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ และทำให้ประเทศไทยสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่สังคมสูงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของการปรับตัวสู่เศรษฐกิจผู้สูงวัย

เศรษฐกิจผู้สูงวัยหมายถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยจากการที่ประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและทำให้ประเทศเผชิญกับปัญหาต่างๆ เช่น การขาดแรงงาน การจัดสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ การขาดสินค้าอุปโภค บริโภค และการบริการสำหรับผู้สูงอายุ

แนวทางการปฏิรูปและข้อเสนอแนะ

คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เสนอว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจผู้สูงวัยควรมี 4 วาระหลัก ดังนี้:

  1. การสร้างงานสำหรับผู้สูงอายุ: รัฐควรจัดทำนโยบายส่งเสริมกลุ่มผู้สูงอายุที่มีศักยภาพในการทำงานให้สามารถเป็นผู้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสร้างปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานผู้สูงอายุ
  2. พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ: รัฐควรมุ่งเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ตอบสนองความต้องการของสังคมสูงวัย โดยสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตและบริการ
  3. นโยบายรายได้ผู้สูงอายุ: รัฐควรทบทวนและจัดสรรการกระจายทรัพยากรในการจัดระบบสวัสดิการให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้มีความต้องการ
  4. ยกระดับสถาบันเทคโนโลยีเพื่อคนพิการและผู้สูงอายุ: จัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีเพื่อคนพิการและผู้สูงอายุให้เป็นองค์การมหาชน เพื่อเชื่อมโยงการช่วยเหลือและการพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุ

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1. ระบบเศรษฐกิจที่รองรับสังคมสูงวัย: ประเทศไทยจะมีระบบเศรษฐกิจที่สามารถรองรับสังคมสูงวัยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาวะ และอุตสาหกรรม
  2. การพัฒนาเศรษฐกิจขนาดใหญ่: การพัฒนาเศรษฐกิจจากผู้บริโภคที่เป็นผู้สูงอายุทั้งในประเทศและทั่วโลก
  3. ลดค่าใช้จ่ายสวัสดิการ: การใช้นวัตกรรมในการดูแลผู้สูงอายุจะช่วยลดค่าใช้จ่ายสวัสดิการได้อย่างมาก
  4. ความร่วมมือทุกภาคส่วน: การสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ ทำให้สังคมมีความสุขและอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน

สรุป

การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรที่นำไปสู่สังคมสูงวัยเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับประเทศไทย การปรับตัวและการปฏิรูปเศรษฐกิจให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศสามารถพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป โดยการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี การสร้างงานและรายได้ให้กับผู้สูงอายุ และการสร้างสวัสดิการที่เหมาะสมกับความต้องการของประชากรสูงวัย

แหล่งที่มา:

ข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปี 2566

คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ

ภาพโดย Sabine van Erp จาก Pixabay

เนื้อหาล่าสุด