สถานการณ์ผู้สูงอายุไทยในแง่ของการประกอบอาชีพและการมีรายได้: ปัญหาที่น่าห่วง
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 และคาดว่าจะกลายเป็นสังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2564 และในปี พ.ศ. 2578 ประชากรสูงอายุจะมีถึงร้อยละ 30 ของจำนวนประชากรทั้งหมด
การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบอาชีพและการมีรายได้ของผู้สูงอายุพบว่ามีปัญหาหลายประการที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ข้อมูลล่าสุดจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แสดงให้เห็นว่ามีผู้สูงอายุมากกว่า 1 ล้านคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ นอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังจำนวน 1,348,397 คน และผู้สูงอายุที่ดูแลกันเองโดยไม่มีบุตรหลานดูแลถึง 610,405 คน
การประกอบอาชีพของผู้สูงอายุ
เปิดสถิติจากกรมพัฒนาผู้สูงอายุ ปี 2566 จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่ได้ประกอบอาชีพมีทั้งสิ้น 1,107,567 คน
จังหวัดที่มีจำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่:
- นครราชสีมา: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 54,174 คน
- เชียงใหม่: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 43,835 คน
- นครศรีธรรมราช: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 38,198 คน
- ลำปาง: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 33,520 คน
- เชียงราย: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 33,077 คน
- อุบลราชธานี: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 31,946 คน
- ขอนแก่น: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 31,818 คน
- สุรินทร์: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 31,355 คน
- บุรีรัมย์: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 29,258 คน
- ศรีสะเกษ: จำนวนผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพ 29,083 คน
ปัญหาการว่างงานในกลุ่มผู้สูงอายุนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวล เนื่องจากผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพจะประสบปัญหาทางด้านการเงินและการดำรงชีวิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพของพวกเขา
การอยู่ลำพังและการดูแลกันเอง
จากการวิเคราะห์ข้อมูลยังพบว่า:
- มีผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังถึง 1,348,397 คน ซึ่งสะท้อนถึงการขาดการสนับสนุนจากครอบครัวหรือชุมชน
- ผู้สูงอายุที่ดูแลกันเองโดยไม่มีบุตรหลานดูแลมีจำนวนถึง 610,405 คน แสดงถึงความจำเป็นในการสนับสนุนและการจัดการเพื่อให้ผู้สูงอายุเหล่านี้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม
สถานการณ์ผู้สูงอายุในประเทศไทยในแง่ของการประกอบอาชีพและการมีรายได้เป็นปัญหาที่น่าห่วง การที่มีผู้สูงอายุมากกว่า 1 ล้านคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ และผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังและดูแลกันเองจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ต้องการการแก้ไขและการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี
การวางแผนและการดำเนินนโยบายที่เหมาะสมในการสนับสนุนผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ และทำให้ประเทศไทยสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่สังคมสูงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของการปรับตัวสู่เศรษฐกิจผู้สูงวัย
เศรษฐกิจผู้สูงวัยหมายถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยจากการที่ประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและทำให้ประเทศเผชิญกับปัญหาต่างๆ เช่น การขาดแรงงาน การจัดสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ การขาดสินค้าอุปโภค บริโภค และการบริการสำหรับผู้สูงอายุ
แนวทางการปฏิรูปและข้อเสนอแนะ
คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เสนอว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจผู้สูงวัยควรมี 4 วาระหลัก ดังนี้:
- การสร้างงานสำหรับผู้สูงอายุ: รัฐควรจัดทำนโยบายส่งเสริมกลุ่มผู้สูงอายุที่มีศักยภาพในการทำงานให้สามารถเป็นผู้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสร้างปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานผู้สูงอายุ
- พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ: รัฐควรมุ่งเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ตอบสนองความต้องการของสังคมสูงวัย โดยสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตและบริการ
- นโยบายรายได้ผู้สูงอายุ: รัฐควรทบทวนและจัดสรรการกระจายทรัพยากรในการจัดระบบสวัสดิการให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้มีความต้องการ
- ยกระดับสถาบันเทคโนโลยีเพื่อคนพิการและผู้สูงอายุ: จัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีเพื่อคนพิการและผู้สูงอายุให้เป็นองค์การมหาชน เพื่อเชื่อมโยงการช่วยเหลือและการพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ระบบเศรษฐกิจที่รองรับสังคมสูงวัย: ประเทศไทยจะมีระบบเศรษฐกิจที่สามารถรองรับสังคมสูงวัยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาวะ และอุตสาหกรรม
- การพัฒนาเศรษฐกิจขนาดใหญ่: การพัฒนาเศรษฐกิจจากผู้บริโภคที่เป็นผู้สูงอายุทั้งในประเทศและทั่วโลก
- ลดค่าใช้จ่ายสวัสดิการ: การใช้นวัตกรรมในการดูแลผู้สูงอายุจะช่วยลดค่าใช้จ่ายสวัสดิการได้อย่างมาก
- ความร่วมมือทุกภาคส่วน: การสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ ทำให้สังคมมีความสุขและอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน
สรุป
การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรที่นำไปสู่สังคมสูงวัยเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับประเทศไทย การปรับตัวและการปฏิรูปเศรษฐกิจให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศสามารถพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป โดยการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี การสร้างงานและรายได้ให้กับผู้สูงอายุ และการสร้างสวัสดิการที่เหมาะสมกับความต้องการของประชากรสูงวัย
แหล่งที่มา:
ข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปี 2566
คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ภาพโดย Sabine van Erp จาก Pixabay