ตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและพฤติกรรมของผู้บริโภค ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยจะมีมูลค่าประมาณ 75,000 ล้านบาทในปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้น 12.4% จากปี 2566 การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากการต่อยอดรูปแบบการเลี้ยงดูในมิติของ Pet Humanization เข้าสู่ Petriarchy และ Pet Celebrity ที่หนุนบทบาทให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
การเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงในไทย
ในปัจจุบัน การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว หรือที่เรียกว่า Pet Humanization กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มผู้ดูแลเดิมและกลุ่มเจ้าของสัตว์เลี้ยงมือใหม่ ผลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยงต่อตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ttb analytics ประเมินว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกในครอบครัวจะมีภาระค่าใช้จ่ายเฉลี่ยราว 41,100 บาทต่อตัวต่อปี ซึ่งสูงกว่าการเลี้ยงดูแบบปล่อยอิสระที่มีค่าใช้จ่ายเพียงราว 7,745 บาทต่อตัวต่อปี โดยมีค่าใช้จ่ายจากอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ค่าดูแล รวมถึงอาหารที่น้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากกระแสการดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization) แล้ว ยังมีวิวัฒนาการสู่การเลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัวแบบตามใจ หรือที่เรียกว่า "ทาสหมา-ทาสแมว" (Petriarchy) ซึ่งในบริบทการเลี้ยงดูที่ตามใจนี้ เจ้าของมักจะเลือกซื้อของให้สัตว์เลี้ยงเพื่อตอบสนองความพอใจส่วนตน ส่งผลให้การจับจ่ายในส่วนของอุปกรณ์และค่าดูแลมีทิศทางเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง
โดย ttb analytics คาดการณ์รายได้จากกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงและบริการรักษาสัตว์เลี้ยง: ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงคาดว่าจะมีมูลค่า 44,600 ล้านบาทในปี 2567 เติบโตเฉลี่ย 17.0% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนบริการรักษาสัตว์เลี้ยงคาดว่าจะมีมูลค่า 6,640 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 21.7% ต่อปีในช่วงเดียวกัน
และคาดการณ์รายได้จากกลุ่มอุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและบริการดูแลสัตว์เลี้ยง: ตลาดอุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงคาดว่าจะมีมูลค่า 22,900 ล้านบาทในปี 2567 เติบโตเฉลี่ย 17.3% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนบริการดูแลสัตว์เลี้ยงคาดว่าจะมีมูลค่า 660 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 16.7% ต่อปีในช่วงเดียวกัน
เทรนด์ใหม่ในยุค Pet Celebrity
ในสังคมยุคปัจจุบัน สัตว์เลี้ยงบางตัวอาจพัฒนาบทบาทจากการเป็นสมาชิกในครอบครัวปกติเป็นสมาชิกในครอบครัวที่สามารถสร้างรายได้ ผ่านการเป็น Pet Celebrity หรือ Petfluencer ซึ่งสัตว์เลี้ยงเหล่านี้มักจะมีลักษณะนิสัยเฉพาะที่ดึงดูดความสนใจจากคนในสังคมวงกว้าง โดยเจ้าของสามารถนำเสนอเนื้อหาผ่านโซเชียลมีเดียและสร้างรายได้จากผู้ติดตาม การเป็น Petfluencer นี้ ทำให้การจับจ่ายในส่วนของอุปกรณ์และค่าดูแลสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ttb analytics คาดว่าตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยจะมีมูลค่าแตะ 75,000 ล้านบาทในปี 2567 โดยแบ่งเป็นกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงและบริการรักษาสัตว์ ซึ่งได้รับการเติบโตจากกระแสการดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization) ที่มากขึ้นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่าแตะ 44,600 ล้านบาท โดยมีค่าเฉลี่ยการเติบโตของมูลค่าตลาดย้อนหลัง 5 ปี (CAGR) ที่ 17.0% และบริการรักษาสัตว์มีมูลค่า 6,640 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 21.7% ต่อปี
นายกฯ จับเทรนด์ใหม่ สร้างโอกาสให้ไทยในตลาดโลก
นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้เห็นถึงโอกาสในตลาดสัตว์เลี้ยงนี้ และได้ผลักดันนโยบายเพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกสินค้าสัตว์เลี้ยงของไทย ซึ่งสินค้าสัตว์เลี้ยงของไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดโลกเนื่องจากมีคุณภาพสูงและสอดคล้องกับแนวคิดการบริโภคในสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าจากธรรมชาติ
โดยนายกรัฐมนตรีได้สนับสนุนการเปิดตลาดสินค้าสัตว์เลี้ยงของไทยในงาน Taipei Pets Show 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาและคาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มถึง 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี
นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสินค้าสัตว์เลี้ยงของไทย โดยการจับกระแส Pet Parent และแนวโน้มในตลาดโลกเพื่อแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไทย การสนับสนุนของรัฐบาลนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทย
การเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยไม่เพียงแต่เป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เทรนด์การดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว การเป็นทาสหมา-ทาสแมว และการเป็น Petfluencer ล้วนเป็นปัจจัยที่หนุนให้ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีได้เห็นถึงโอกาสนี้และได้ผลักดันนโยบายเพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกสินค้าสัตว์เลี้ยงของไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยในอนาคต
ภาพโดย huoadg5888 จาก Pixabay