Skip to main content

ชาวนาสระบุรี ร้องถูกสวมสิทธิ์-โกงราคาข้าวเมล็ดพันธุ์ดีปี 66

7 ตุลาคม 2566

ชาวนาสระบุรี ร้องเรียนหลังผู้นำชุมชนบวกราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวอีกเท่าตัว ในโครงการกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวดี ของกรมการข้าวปี66 ขณะที่ชาวนาบางรายไม่ได้ลงชื่อแต่กลับถูกสวมสิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมการข้าวมีโครงการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีกับเกษตรกร ในปี 2566 ผ่านโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 2566 ซึ่งกรมการข้าวได้ดำเนินการขายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ให้แก่ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการ ในราคาถูกและได้คุณภาพ แบ่งเป็น ข้าวขาวหอมมะลิ 105 กข 15 ราคากิโลกรัมละ 5 บาท ข้าวเหนียวและข้าวปทุมธานี 1 กิโลกรัมละ 4 บาท ข้าวขาว กิโลกรัมละ 3 บาท

โดยให้ศูนย์ข้าวจำหน่ายพันธุ์ข้าวชนิดดีราคาถูก เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อลดต้นทุนผลิต แล้วจะมีผลกำไรมากขึ้น ซึ่งพื้นที่จังหวัดสระบุรีขึ้นกับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวลพบุรี แต่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ได้มีประชาชนตำบลห้วยบงจำนวนหนึ่งได้รับความเดือนร้อนเสียหาย จากการกระทำของผู้นำกลุ่มเกษตรกร ที่ได้รวบรวมรายชื่อเกษตรกรเข้าร่วมโครงการดังกล่าว

เบื้องต้นแจ้งต่อเกษตรกรว่าพันธุ์ข้าว กข.31 ราคา กก.ละ 3 บาท ต่อมาเมื่อศูนย์ๆ ได้ส่งพันธุ์ข้าวมาตามสิทธิแต่ละคนแล้ว ปรากฎว่าผู้นำกลุ่มฯ ได้คิดราคากับเกษตรกรเพิ่มในราคา กก.ละ 6 บาท อ้างว่าเป็นค่าขนส่ง ต่อมาเกษตรกรมาทราบภายหลังจากเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอและข้อมูลจากกลุ่มเกษตรกรกลุ่มใกล้เคียง ทราบว่าราคาเพียง 3 บาทเท่านั้น และบางรายมีรายชื่อเข้าโครงการแต่เกษตรกรไม่ทราบ ว่ามีชื่ออยู่ได้อย่างไร เพราะไม่ได้แจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว

การทำของผู้นำกลุ่มดังกล่าวซึ่งเป็นผู้นำชุมชน ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน แต่กลับมากอบโกยเอาผลประโยชน์ ทำให้ประชนได้รับความเสียหายเดือนร้อน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการกับผู้นำชุมชนดังกล่าวและไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.เรืองฤทธิ์ มาลีการ ประธานชมรมปกป้องสิทธิประชาชน สระบุรี เปิดเผยว่า ได้รับทราบความเดือนร้อน เสียหายของประชาชน และตรวจสอบจนทราบจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวไม่มีค่าขนส่งแต่อย่างใด จึงได้รวบรวมข้อมูลปัญหาความเดือนร้อนเสียหายของประชาชน ร้องเรียนต่อนายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งทางอำเภอได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว โดยเบื้องต้นได้สอบผู้เสียหายทุกคนแล้ว เห็นว่าการตรวจสอบกรณีดังกล่าวล่วงเลยมากว่า 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีการแจ้งผลการดำเนินการแต่อย่างใด จึงได้มาติดตามผลการคำเนินการสอบสวนของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเฉลิมพระเกียรติ

ด้านนางประทุม ดวงสะอาด อายุ 72 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เปิดเผยว่า ราคาที่เราจ่ายไปจริงกับราคาที่เราควรจะได้มันต่างกันเยอะ ซึ่งจริงๆ ต้องจ่ายเงิน 75 บาท แต่จ่ายไปครึ่งต่อครึ่ง คือ 150 บาท เพราะทางผู้นำเขาแจ้งว่า 3 บาท ตั้งแต่แรก แต่พอถึงวันที่ไปรับข้าว ทางเราได้เตรียมไปพอดี ปรากฎว่าเงินไม่พอ ต้องกลับไปเอาเงินมาจ่ายเพิ่มอีกเท่าตัว  ได้สอบถามได้รับคำตอบว่าเป็นค่าขนส่ง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ได้แต่สงสัยในใจ

“เมื่อกลับถึงบ้าน สอบถามราคาของแต่ละกลุ่มเท่ากันหมด มีกลุ่มเดียวที่ไม่เท่ากัน สั่งเมล็ดพันธุ์ไป 18 กระสอบ เตรียมเงินไปพันกว่าบาท แต่เงินไม่พอ จึงเอาข้าวกลับบ้านไปก่อน แล้วเอาเงินไปจ่ายทีหลัง ขอใบเสร็จก็ไม่มี กลุ่ม ต.ห้วยบง มีคนที่เดือนร้อนจริงๆ อยู่ 3-4 คน บางคนมีชื่อแต่ไม่ได้รับข้าว  ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนจึงได้มาร้องศูนย์ดำรงค์ธรรม ทางผู้นำชุมชนก็ไม่ได้มาชี้แจ้งอะไรให้ฟัง เงียบไปเลย" นางประทุม กล่าว 

 

เนื้อหาล่าสุด