Skip to main content

เศรษฐกิจภาคกลาง: แหล่งรายได้หลักและสถิติน่าสนใจ

28 กรกฎาคม 2567

ภาคกลางของประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยความหลากหลายทางเศรษฐกิจที่ประกอบด้วยภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ โดยในบทความนี้เราจะมาดูว่าอะไรคือแหล่งรายได้หลักของภาคกลาง และตัวเลขรายได้ของแต่ละจังหวัดนั้นแสดงถึงประเด็นอะไรบ้าง

แหล่งรายได้หลักของภาคกลาง

  1. ภาคการเกษตร:
    • หลายจังหวัดในภาคกลาง เช่น นครสวรรค์ ชัยนาท และอุทัยธานี มีการเพาะปลูกข้าว พืชผัก และผลไม้ที่สำคัญ ทำให้ภาคการเกษตรเป็นแหล่งรายได้หลัก
    • จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เช่น เพชรบูรณ์ และชัยนาท แสดงถึงการพึ่งพาภาคการเกษตรเป็นหลัก
  2. ภาคอุตสาหกรรม:
    • จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวสูง เช่น พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี มีภาคอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมหนัก และการประกอบรถยนต์
    • การมีนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เหล่านี้ช่วยส่งเสริมการจ้างงานและสร้างรายได้สูงขึ้น
  3. ภาคบริการและการท่องเที่ยว:
    • จังหวัดที่มีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและการบริการ เช่น พระนครศรีอยุธยา ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
    • การท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างรายได้จากการบริการ

การแตกต่างของรายได้ระหว่างจังหวัด

  1. ความแตกต่างของการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม:
    • จังหวัดที่มีภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง เช่น พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี มีรายได้ต่อหัวสูงมากกว่า เนื่องจากมีการจ้างงานและการลงทุนจากภาคอุตสาหกรรม
  2. ความสำคัญของภาคเกษตร:
    • จังหวัดที่พึ่งพาภาคเกษตรเป็นหลัก เช่น นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ มีรายได้ต่อหัวต่ำกว่าเนื่องจากราคาผลผลิตทางการเกษตรมีความผันผวนและมีรายได้ไม่สม่ำเสมอ
  3. การพัฒนาภาคบริการและการท่องเที่ยว:
    • จังหวัดที่มีการพัฒนาด้านการบริการและการท่องเที่ยว เช่น พระนครศรีอยุธยา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้สูงกว่า
  4. การกระจายตัวของประชากรและการพัฒนา:
    • จังหวัดที่มีประชากรมาก เช่น นครสวรรค์ ลพบุรี และเพชรบูรณ์ แสดงให้เห็นถึงความต้องการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน

แหล่งรายได้หลักของภาคกลาง

  1. ภาคการเกษตร:
    • หลายจังหวัดในภาคกลาง เช่น นครสวรรค์ ชัยนาท และอุทัยธานี มีการเพาะปลูกข้าว พืชผัก และผลไม้ที่สำคัญ ซึ่งทำให้ภาคการเกษตรเป็นแหล่งรายได้หลัก
    • จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เช่น เพชรบูรณ์ และชัยนาท แสดงถึงการพึ่งพาภาคการเกษตรเป็นหลัก
  2. ภาคอุตสาหกรรม:
    • จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวสูง เช่น พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี มีภาคอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมหนัก และการประกอบรถยนต์
    • การมีนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เหล่านี้ช่วยส่งเสริมการจ้างงานและสร้างรายได้สูงขึ้น
  3. ภาคบริการและการท่องเที่ยว:
    • จังหวัดที่มีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและการบริการ เช่น พระนครศรีอยุธยา ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
    • การท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างรายได้จากการบริการ

การแตกต่างของรายได้ระหว่างจังหวัด

  1. ความแตกต่างของการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม:
    • จังหวัดที่มีภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง เช่น พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี มีรายได้ต่อหัวสูงมากกว่า เนื่องจากมีการจ้างงานและการลงทุนจากภาคอุตสาหกรรม
  2. ความสำคัญของภาคเกษตร:
    • จังหวัดที่พึ่งพาภาคเกษตรเป็นหลัก เช่น นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ มีรายได้ต่อหัวต่ำกว่าเนื่องจากราคาผลผลิตทางการเกษตรมีความผันผวนและมีรายได้ไม่สม่ำเสมอ

สถิติน่าสนใจจากภาคกลาง

บริษัทที่มีรายได้สูงสุด 10 อันดับของภาคกลางมีดังนี้:

  1. Western Digital Storage Technology (Thailand) Co., Ltd. - จังหวัดพระนครศรีอยุธยา: 274,590,570,583 บาท
  2. The Siam Cement (Tha Luang) Co., Ltd. - จังหวัดสระบุรี: 24,033,441,099 บาท
  3. Thanasarn Rice Co., Ltd. - จังหวัดชัยนาท: 15,272,883,728 บาท
  4. Dairy Plus Co., Ltd. - จังหวัดนครสวรรค์: 15,183,749,393 บาท
  5. Sawasdiphaiboon Agriculture Co., Ltd. - จังหวัดกำแพงเพชร: 13,739,890,888 บาท
  6. Golden Granary Co., Ltd. - จังหวัดพิจิตร: 9,464,988,390 บาท
  7. F&F Food Co., Ltd. - จังหวัดสุพรรณบุรี: 6,944,106,933 บาท
  8. Pairoj Poultry Food Phitsanulok Co., Ltd. - จังหวัดพิษณุโลก: 6,331,527,459 บาท
  9. Petform (Thailand) Co., Ltd. - จังหวัดลพบุรี: 4,543,900,599 บาท
  10. GSE Corporation Co., Ltd. - จังหวัดสมุทรสงคราม: 4,010,277,327 บาท

ขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด 10 อันดับ

  1. พระนครศรีอยุธยา - 646,388 ล้านบาท
  2. สระบุรี - 259,073 ล้านบาท
  3. ลพบุรี - 191,607 ล้านบาท
  4. นครสวรรค์ - 188,571 ล้านบาท
  5. เพชรบูรณ์ - 119,274 ล้านบาท
  6. ชัยนาท - 72,807 ล้านบาท
  7. สิงห์บุรี - 66,273 ล้านบาท
  8. อ่างทอง - 59,858 ล้านบาท
  9. อุทัยธานี - 44,501 ล้านบาท

จังหวัดที่มีประชากรมากที่สุด 10 อันดับ

  1. นครสวรรค์ - 1,065,474 คน
  2. ลพบุรี - 758,406 คน
  3. เพชรบูรณ์ - 962,152 คน
  4. พระนครศรีอยุธยา - 815,828 คน
  5. สระบุรี - 642,636 คน
  6. ชัยนาท - 323,442 คน
  7. สิงห์บุรี - 198,457 คน
  8. อ่างทอง - 272,167 คน
  9. อุทัยธานี - 320,734 คน

จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวมากที่สุด 10 อันดับ

  1. พระนครศรีอยุธยา - 791,307 บาท
  2. สระบุรี - 403,082 บาท
  3. ลพบุรี - 253,857 บาท
  4. นครสวรรค์ - 177,020 บาท
  5. เพชรบูรณ์ - 124,008 บาท
  6. ชัยนาท - 224,264 บาท
  7. สิงห์บุรี - 335,401 บาท
  8. อ่างทอง - 219,926 บาท
  9. อุทัยธานี - 142,077 บาท

ภาพโดย StockSnap จาก Pixabay

เนื้อหาล่าสุด