ภาคเหนือของประเทศไทยเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญ นอกจากนั้น ภาคเหนือยังเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต โดยมีทั้งภาคเกษตรกรรม การผลิต การค้าปลีก และการบริการที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้และการพัฒนาชุมชนในท้องถิ่น บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเศรษฐกิจและธุรกิจในภาคเหนือ โดยการจัดลำดับจังหวัดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) รายได้ต่อหัวประชากร และบริษัทที่ทำรายได้สูงสุด เพื่อให้คุณเข้าใจถึงศักยภาพและแนวโน้มการพัฒนาในภูมิภาคนี้ได้ดียิ่งขึ้น
จัดลำดับจังหวัดตาม GPP
เมื่อพิจารณาจากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) เชียงใหม่ถือเป็นผู้นำด้วยมูลค่า 239,739 ล้านบาท ตามมาด้วยลำปางที่มี GPP 73,161 ล้านบาท และลำพูนที่มี GPP 88,614 ล้านบาท การที่เชียงใหม่มี GPP สูงสุดนั้นสะท้อนถึงความเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคเหนือ ที่นี่มีทั้งการท่องเที่ยวที่เข้มแข็งและการพัฒนาธุรกิจที่หลากหลาย
- เชียงใหม่: 239,739 ล้านบาท
- ลำปาง: 73,161 ล้านบาท
- ลำพูน: 88,614 ล้านบาท
- เชียงราย: 103,000 ล้านบาท
- อุตรดิตถ์: 41,937 ล้านบาท
- น่าน: 35,674 ล้านบาท
- พะเยา: 35,425 ล้านบาท
- แพร่: 30,824 ล้านบาท
- แม่ฮ่องสอน: 15,797 ล้านบาท
จัดลำดับจังหวัดตามรายได้ต่อหัวประชากร
เมื่อมองจากรายได้ต่อหัวประชากร ลำพูนโดดเด่นที่สุดที่ 226,464 บาทต่อหัว แสดงถึงความมั่งคั่งและการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ดีของจังหวัด เชียงใหม่และลำปางตามมา โดยมีรายได้ต่อหัวประชากรที่ 133,306 บาทและ 104,754 บาทตามลำดับ ข้อมูลนี้สะท้อนถึงความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่นและคุณภาพชีวิตของประชากรในภูมิภาคนี้
- ลำพูน: 226,464 บาท
- เชียงใหม่: 133,306 บาท
- ลำปาง: 104,754 บาท
- อุตรดิตถ์: 103,567 บาท
- พะเยา: 96,550 บาท
- เชียงราย: 90,203 บาท
- แพร่: 82,755 บาท
- น่าน: 81,233 บาท
- แม่ฮ่องสอน: 65,653 บาท
บริษัท Top 10 ในภาคเหนือ
ภาคเหนือยังเป็นที่ตั้งของบริษัทที่มีรายได้สูงสุดในประเทศไทย บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในลำพูน เป็นผู้นำด้วยรายได้ 9,844,381,444 บาท ตามมาด้วยบริษัท เอจีซี ไมโคร กลาส (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีรายได้ 8,383,957,778 บาท ส่วนบริษัท ชอยส์ มินิ สโตร์ จำกัด ในเชียงใหม่ ก็ทำรายได้สูงถึง 9,278,007,469 บาท ธุรกิจเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภูมิภาคในการดึงดูดการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัย
- บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ลำพูน): 9,844,381,444 บาท
- บริษัท เอจีซี ไมโคร กลาส (ประเทศไทย) จำกัด (ลำพูน): 8,383,957,778 บาท
- บริษัท ชอยส์ มินิ สโตร์ จำกัด (เชียงใหม่): 9,278,007,469 บาท
- บริษัท ฮิตาชิ แฮสเตโม ลำพูน จำกัด (ลำพูน): 6,334,737,391 บาท
- บริษัท โฮยา ลำพูน จำกัด (ลำพูน): 4,811,939,252 บาท
- บริษัท โฮยา ออปติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ลำพูน): 4,790,658,004 บาท
- บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด (ลำปาง): 6,878,357,790 บาท
- บริษัท โตโยต้าเชียงราย จำกัด (เชียงราย): 4,272,863,675 บาท
- บริษัท ฟาร์ม 9 ไก่ฟู้ดส์ จำกัด (เชียงใหม่): 3,244,478,918 บาท
- บริษัท น้ำตาลไทยเอกลักษณ์ จำกัด (อุตรดิตถ์): 3,763,919,876 บาท