Skip to main content

วิถีชนบทส่อง "แมงกุดจี่" ตำน้ำพริกมีให้กินแค่ปีละครั้ง

15 กรกฎาคม 2567

วิถีชาวบ้านใช้ไฟฉายขุดคุ้ยกองขี้ควาย หาแมงกุดจี้ นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้ง คั่ว ทอด แกง และตำป่น หากินได้แค่ปีละครั้ง

ที่บ้านหนองไทร ม.7 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวพบนายจตุรงค์ บุญที อายุ 37 ปี ชาวบ้านหนองไทร กำลังใช้ไฟฉายส่องขุดคุ้ยกองขี้ควายอยู่ จึงได้สอบถามทราบว่ากำลังคุ้ยหาแมงกุดจี้หรือแมงขี้ควาย ที่กำลังบินมาลงกินขี้ควาย ที่ควายชาวบ้านขับถ่ายกองทิ้งไว้ตามคอกควายในช่วงกลางวัน โดยใช้พลั่วเขี่ยหาเมื่อเจอตัวก็จับมาลงในกะละมังที่ใส่น้ำเอาไว้ ขี้ควายกองหนึ่งจะได้แมงกุดจี้ประมาณ 5-10 ตัว แล้วแต่กองใหม่หรือเก่า ถ้าเป็นกองเก่าเกินหนึ่งวันตัวแมงกุดจี้ก็จะมุดลงไปในดินกันหมด ถ้าจะเอาต้องใช้เสียมขุดหาตัวเอา แต่นายจตุรงค์ หาจับเฉพาะตัวที่อยู่ในกองขี้ควายเท่านั้น

เมื่อหามาได้มากพอสมควรนำมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นก็นำแมงกุดจี้มาแช่ในน้ำใส่เกลือแกงและพริกป่นลงไปคนให้เกลือและพริกป่นละลายแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาที เพื่อให้แมงกุดจี้ขับถ่ายมูลขี้ควายที่กินเข้าไปออกมาจนหมดก่อน แล้วจึงนำมาเด็ดปีกออกและล้างให้ให้สะอาดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนนำไปประกอบอาหาร โดยแมงกุดจี้สามารถทำเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู เช่นนำไปคั่ว-ทอด กินเป็นกับแกล้ม หรือจะแกงจะตำป่นก็แล้วแต่คนชอบ เพราะเมนูที่ทำจากแมงกุดจี่ ถือว่าอร่อยทุกอย่าง ชาวบ้านตามชนบทเขาจะรู้ดีเพราะหากินได้ปีละครั้งเท่านั้น

นายจตุรงค์ บอกด้วยว่า ทำเป็นเมนูตำป่น โดยนำแมงกุดจี่ไปคั่วรวมกับตะใคร้ใบมะกรูดจนสุก ก็นำมาตำรวมกับพริก หอมกระเทียมที่ย่างไฟไว้แล้ว ตำรวมกันจนละเอียดได้ที่ ก็ใส่เครื่องปรุงรสลงไปแล้วก็ชิมดู (ตำ-ปรุงรสเหมือนกับตำน้ำพริกปลาทู)เมื่อได้รสชาติตามที่ต้องการแล้วก็ตักใส่ถ้วย นำผักที่หาได้ตามบ้านมาลวกจิ้ม ถือว่าเป็นเมนูที่กินเป็นกับข้าวในแต่ละมื้อได้อย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ตามพื้นที่ชนบทบอกได้เลยว่าเจอป่นแมงกุดจี่แบบนี้แล้ว ใครเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมอย่างแน่นอน
 

แมงกุดจี่
แมงกุดจี่
แมงกุดจี่
แมงกุดจี่
แมงกุดจี่
แมงกุดจี่
เนื้อหาล่าสุด