"ตลาดหัวปลี" ตลาดขึ้นชื่อของ จ.สระบุรี "ลาบหัวปลี" อาหารพื้นถิ่นของอร่อยห้ามพลาด ต้นตำรับเปิดสูตรการทำ 1 กระทะขายได้ 1,000 บาท พร้อมใส่ในภาชนะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรม 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ในส่วน จ.สระบุรี "ลาบหัวปลี" ถูกคัดเลือกให้เป็น "อาหารพื้นถิ่น" โดยที่ "ตลาดหัวปลี" ตั้งอยู่ที่ ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เป็นตลาดที่จำหน่ายสินค้าและอาหารจำนวนมาก
นางนารีรัช อุทัยแสงสกุล ประธานชุมชนการท่องเที่ยวตลาดหัวปลี จ.สระบุรี เปิดเผยว่า วัตถุดิบที่ใช้ มี 1.หัวปลีกล้วยไทย ซึ่งมีประโยชน์มากเป็นพืชที่มีโปรตีนสูง 2.เครื่องสมุนไพร เช่น ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม พริก มะขามเปียก และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ ข้าวคั่ว หรือ ข้าวเจ๊กเชย ซึ่ง จ.สระบุรี มีสินค้าจีไอ นอกจากปลูกหอมแล้ว ก็คือ ข้าวเจ๊กเชย ซึ่งเป็นข้าวที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ คนที่เป็นเบาหวาน ทานข้าวเจ๊กเชย น้ำตาลจะไม่สูง และที่สำคัญกว่านั้นข้าวเจ๊กเชย คุณสมบัติคือ ใช้สำหรับทำข้าวผัด เนื้อข้าวจะร่วนซุย ไม่แฉะ หรือนำไปทำพวกขนมจีนต่างๆ รับรองว่าหากใครได้รับประทานจานแรกแล้ว ต้องมีจานที่สองตามมาแน่นอน
ส่วนวิธีการทำ 1.นำหัวปลีไปสับแบบละเอียด ใช้แต่ใจหัวปลีเท่านั้น 2.เครื่องลาบที่มีสมุนไพรกว่า 10 ชนิด 3.ผักชีใบเลื่อย 4.น้ำมะขามเปียก 5.เกลือ 6.น้ำมันพืช 7.ข้าวเจ๊กเชยคั่ว จากนั้นนำหัวปลีแบบสับละเอียดเทลงในภาชนะ แล้วตามด้วยเครื่องลาบสมุนไพร ขยำบี้คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำเกลือใส่ลงไปในน้ำมะขาม คนให้เกลือละลาย ซึ่งเป็นวิธีการที่จะทำให้ความกลมกล่อมถูกผสมก่อนที่เราจะไปปรุง ต่อมาเราจะใส่ผักชีใบเรื่อยและโรยข้าวคั่วลงไป แล้วขยำให้เข้ากัน ใส่น้ำมะขามที่ผสมเกลือลงไป จากนั้นตั้งเตาเทน้ำมัน และใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป ผัดคั่วไปเรื่อยๆจนหอม 1 กระทะ 1 กิโลกรัม มูลค่า 1,000 บาท กล่องละ 50 กรัม 50 บาท จากนั้นนำใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ โดยตลาดที่นี่อาหารทุกอย่างจะใส่ในภาชนะที่ทำจากกาบกล้วย และจานกากไผ่
โดยนายเฉลิมศักดิ์ เสปานัน ผู้ฝึกสอนทำจานกากไผ่ เปิดเผยว่า ได้เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ เนื่องจากในพื้นที่มีวัสดุที่มาจากธรรมชาติ ใช้เวลาทำเพียง 1 นาที โดยนำมาอัดเข้ารูปด้วยความร้อน เมื่อทำแล้วเสร็จสามารถนำมาใส่อาหารได้เลย นอกจากจะต้นทุนไม่แพงแล้ว ยังได้รักษาสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะภาชนะทุกอย่างย่อยสลายได้