ธุรกิจค้าปลีกซบเซา กำลังซื้อลด บางรายไปต่อไม่ไหวต้องเลิกกิจการ เรียกร้องรัฐบาลเร่งอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ และนำนโยบาย "คนละครึ่ง" กลับมาใช้อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจร้านค้าปลีกท้องถิ่น คือร้านหมอยาพลาซ่า สาขาหนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่าภายในร้านมีลูกค้าบางตาอย่างเห็นได้ชัด โดย นายจักริน เชิดฉาย เจ้าของร้านหมอยาพลาซ่า เปิดเผยว่า ยอมรับว่าช่วงนี้เศรษฐกิจในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซบเซามาก เนื่องจากกำลังการซื้อของลูกค้าลดลง ส่งผลให้ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งต่างๆ ในพื้นที่ ต้องมีการปรับตัวอย่างหนัก เพื่อความอยู่รอด โดยเฉพาะร้านค้าปลีกที่เป็นแบรนด์ของคนในท้องถิ่น พบว่าขณะนี้มีอย่างน้อย 3 แบรนด์ บางแบรนด์มีร้านมากกว่า 20 สาขา ที่เริ่มขายสาขาให้เจ้าอื่นไปหลายสาขาแล้ว
สาเหตุนอกจากกำลังซื้อที่ลดลงแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น การแข่งขันที่สูงขึ้น และผู้ประกอบการรุ่นเก่าเริ่มเหนื่อยกับการแข่งขันที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันทายาทรุ่นใหม่ก็ไม่มาสานต่อธุรกิจค้าปลีกของครอบครัว ทำให้ต้องตัดสินใจขายกิจการให้เจ้าอื่นที่มีความพร้อมกว่าไปทำต่อ เช่นตนเองอายุมากแล้ว ทายาทไปเรียนด้านแฟชั่น อยากไปทำอาชีพที่รัก ตนเองที่เคยปั้นธุรกิจค้าปลีก มีสาขามากถึง 19 สาขา ขณะนี้ได้ขายสาขาให้กลุ่มธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่นรายใหญ่ของโคราชไป จนขณะนี้เหลืออยู่เพียงแค่ 9 สาขาเท่านั้น
"เรื่องนี้อยากจะให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยในต่างจังหวัด ให้สามารถไปต่อได้ โดยอยากฝากถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็อยากให้นำนโยบายคนละครึ่งของรัฐบาลที่แล้วมาปัดฝุ่นใหม่ เพราะนโยบายคนละครึ่งนั้นสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าได้ดีมาก และทำให้ร้านค้าปลีกต่างๆ ที่อยู่ในชนบทได้รับอานิสงค์ขายดีไปด้วย เพียงแต่รอบนั้นมีผลทำให้เกิดการเก็บภาษีย้อนหลังกันเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายร้านเริ่มไม่อยากเข้าร่วมโครงการ เพราะเขากลัวภาษีย้อนหลัง ถ้าอยากให้มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการมากๆ ก็แก้ปัญหาด้วยการกำหนดจากยอดขายที่ไม่มาก เช่น ถ้าร้านใดยอดขายไม่ถึง 1 แสนบาท ไม่เก็บภาษีย้อนหลัง อย่างนี้จะดีมาก" นายจักริน กล่าว