ประเพณีงานบุญบั้งไฟ หนึ่งเดียวในภาคใต้ เป็นประเพณีทางภาคอีสาน จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 45 ปัจจุบันเป็นกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีสร้างความสนุกสนาน ทั้งยังเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่หาดูได้ยากในภาคใต้
นางจิราพร นกพรม สมาชิกบั้งไฟค่ายพิณพาเพลิน กล่าวว่า ประเพณีบุญบั้งไฟเป็นประเพณี 1 เดียวในภาคใต้ ชุมชนคนอีสานย้ายถิ่นฐานมาอยู่ เกิดความเหงาอยากกลับบ้าน ทำอย่างไรเพื่อระลึกถึงประเพณีทางภาคอีสานก็ต้องบุญบั้งไฟ ในอดีตเรามาอยู่ที่นี้นานกว่า 40 ปี บางคนมาตั้งแต่ พ.ศ.2523 หรือ พ.ศ.2524 ดั้งเดิมก็คือคนอีสานที่มีฐานะยากจนอพยพมาอยู่
จากนั้นประเพณีบุญบั้งไฟก็สืบทอดกันมาเรื่อยๆ จากรุ่นสู่รุ่นจากพ่อสอนลูกจากลูกสอนหลานต่อเนื่องกันมา กลายเป็นกิจกรรมที่นิยมขึ้นชื่อของอำเภอสุคิริน เป็นจุดขายในปฏิทินท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาส ซึ่งตรงกับสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายนในทุกๆปี
"งานบุญบั้งไฟยังเป็นการกลับมารวมกลุ่มของคนอีสานตั้งแต่รุ่นบุกเบิกจนถึงรุ่นหนุ่มสาว ในเขตนิตมสร้างตนเองในโครงการพระราชดำริฯ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ปัจจุบันกลายเป็นชุมชนคนอีสานซึ่งอาศัยอยู่จำนวนกว่า 2,000 ครัวเรือน และอยู่ท่ามกลางไทยพุทธมุสลิมจนกลายสภาพเป็นสังคมพาหุวัฒนธรรม ที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ" นางจิราพร กล่าว
นางจิราพร กล่าวว่า การจุดบั้งไฟ อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนกับทางภาคอีสานแท้ๆ แต่ไม่แตกต่างกันมากนัก ถือว่าเป็นความภูมิใจของคนชุมชนอีสานพลัดถิ่น ที่ถือว่าได้ร่วมกันสืบสานและสืบทอดประเพณีร่วมกันของแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 8 หมู่บ้าน มีการจัดตั้งเป็นค่ายที่ปีนี้มีบั้งไฟมากกว่า 18 ค่าย เข้าร่วมกิจกรรมเหมือนในทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละค่ายจะมีสูตรจำเพาะ หรือ สูตรลับในการทำบั้งไฟ ที่ได้มีการนำข้อผิดพลาดนำไฟพัฒนาปรับปรุง เพื่อให้บั้งไฟของแต่ละค่ายขึ้นสู่ท้องฟ้าและตกลงมายังพื้นใช้เวลานานที่สุด
"บั้งไฟใช้เวลาทำจริงๆ มันทำหลายบั้ง ถ้าทำบั้งเดียวทั่วไปอย่างน้อยก็ประมาณ 2 วัน แต่ว่าเราไม่ได้ทำทีละบั้งเราจะทำร่วมกัน ซึ่งงานประเพณีบุญบั้งไฟ หนึ่งเดียวในภาคใต้ที่ ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ในทุกๆปีนี้จะจัดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายน หากพลาดกิจกรรมอันดีงามและเป็นมนต์เสน่ห์ที่สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน ท่านสามารถเดินทางมาชมงานที่ตระการตาได้ในปีถัดไป" นางจิราพร กล่าว