Skip to main content

ข้อมูลเศรษฐกิจ “กรุงเทพมหานคร” เมืองหลวงของประเทศประจำปี พ.ศ.2565

12 มิถุนายน 2567
  • กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงินการธนาคาร การพาณิชย์ การสื่อสาร และความเจริญของประเทศ ซึ่งปัจจุบัน กรุงเทพมหานครมีประชากรทั้งหมด จำนวน 5,494,932 คน
  • ในปี พ.ศ.2564 กรุงเทพมหานครมีผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (Gross Provincial Product หรือ GPP) มูลค่า 5,365,348 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 593,927 บาท

 

กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงินการธนาคาร การพาณิชย์ การสื่อสาร และความเจริญของประเทศ โดยกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 11 ของโลก ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม การจับจ่ายซื้อของ ศูนย์การค้าต่างๆ หรือสถานบริการกลางคืน

กรุงเทพมหานครเป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศร้อยละ 25 มาจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งมาจากการค้าปลีกและการค้าส่งมากที่สุด รองลงมาได้แก่ อุตสาหกรรมโรงงาน, อุตสาหกรรมขนส่งและอุตสาหกรรมสื่อสาร และโรงแรมและภัตตาคาร ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.2564 กรุงเทพมหานครมีผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (Gross Provincial Product หรือ GPP) มูลค่า 5,365,348 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 593,927 บาท โดย 10 บริษัทที่สามารถทำรายได้สูงสุดของกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ.2565[1] มีดังต่อไปนี้

อันดับที่ 1: บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คือธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดให้อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 19201 การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโรงกลั่นปิโตรเลียม ซึ่งในปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 2,171,423,938,063 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 77.11%

อันดับที่ 2: บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 46492 การขายส่งนาฬิกาและเครื่องประดับ โดยมีรายได้รวมประจำปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 1,310,009,173,053 บาท ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 77.65%

อันดับที่ 3: บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 46612 การขายส่งเชื้อเพลิงเหลว ทั้งนี้ รายได้รวมของบริษัทประจำปี พ.ศ.2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 754,547,898,602 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 53.87%

อันดับที่ 4: บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มธุรกิจ 46492 การขายส่งนาฬิกาและเครื่องประดับ โดยบริษัทสามารถทำรายได้รวมจากปี พ.ศ.2565 ได้ทั้งหมด 738,962,545,749 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 62.40%

อันดับที่ 5: บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 24201 การผลิตโลหะมีค่า ซึ่งรายได้รวมทั้งหมดของบริษัทประจำปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 617,105,785,856 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 40.36%

อันดับที่ 6: บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 10201 การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโรงกลั่นปิโตรเลียม โดยปี พ.ศ.2565 บริษัททำรายได้รวมได้ทั้งหมด 575,949,898,718 บาท ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 53.52%

อันดับที่ 7: บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 19201 การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโรงกลั่นปิโตรเลียม ซึ่งบริษัททำรายได้รวมทั้งหมดจากปี พ.ศ.2565 จำนวนทั้งสิ้น 522,997,313,673 บาท เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 26.02%

อันดับที่ 8: บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 47732 ร้านขายปลีกเครื่องประดับ ที่มีรายได้รวมทั้งหมดในปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 483,506,763,726 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 85.61%

อันดับที่ 9: บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 47113 ร้านสะดวกซื้อ/มินิมาร์ท ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมจากปี พ.ศ.2565 ทั้งหมด 382,490,446,804 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 19.37%

อันดับที่ 10: บริษัท ออโรร่า เทรดดิ้ง จำกัด

บริษัท ออโรร่า เทรดดิ้ง จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่ม 47732 ร้านขายปลีกเครื่องประดับ ซึ่งในปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 316,626,093,761 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 14.23%
 


[1] ข้อมูลจากเว็บไซต์ Creden Data (https://data.creden.co/

เนื้อหาล่าสุด