มองเศรษฐกิจจังหวัดนครปฐม ผ่าน 10 บริษัทรายได้สูงสุดของจังหวัด ปี พ.ศ.2565
- จังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย เป็นหนึ่งในห้าจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีประชากรทั้งหมด 921,882 คน
- มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดนครปฐม (Gross Provincial Product หรือ GPP) ประจำปี พ.ศ.2564 เท่ากับ 365,987 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 297,901 บาท
จังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย เป็นหนึ่งในห้าจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร ทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน เชื่อว่าเป็นที่ตั้งเก่าแก่ของเมืองในสมัยทวารวดี โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จังหวัดนครปฐมยังเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยเฉพาะการปลูกส้มโอ จนทำให้จังหวัดนครปฐมได้ชื่อว่าเป็นเมืองส้มโอหวาน
จังหวัดนครปฐมเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (Gross Provincial Product หรือ GPP) ประจำปี พ.ศ.2564 เท่ากับ 365,987 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 297,901 บาท โดยมีสาขาการผลิตที่สำคัญอันดับที่ 1 คือสาขาอุตสาหกรรม รองลงมาคือสาขาการขายส่ง การขายปลีก และสาขาการศึกษา ทั้งนี้ 10 บริษัทที่สามารถทำรายได้สูงสุดของจังหวัดนครปฐม ประจำปี พ.ศ.2565[1] มีดังต่อไปนี้
อันดับที่ 1: บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด
บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 10501 การผลิตน้ำนมสด (ยกเว้นน้ำนมดิบ) โดยในปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 10,662,722,939 บาท ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 5.49%
อันดับที่ 2: บริษัท ไอ.เอส.เอ แวลู จำกัด
บริษัท ไอ.เอส.เอ แวลู จำกัด ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดไว้ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 10221 การผลิตปลาบรรจุกระป๋อง ซึ่งบริษัทมีรายได้รวมประจำปี พ.ศ.2565 จำนวนทั้งสิ้น 8,497,262,000 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 62.24%
อันดับที่ 3: บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด
บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 10799 การผลิตผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น ทั้งนี้ รายได้รวมของบริษัทประจำปี พ.ศ.2565 มีมูลค่า 7,734,020,674 บาท เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 13.77%
อันดับที่ 4: บริษัท สลอม อีเล็คทริค (ไทยแลนด์) จำกัด
บริษัท สลอม อีเล็คทริค (ไทยแลนด์) จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ถูกจัดไว้ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 26109 การผลิตส่วนประกอบอีเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น โดยปี พ.ศ.2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวมได้ทั้งหมด 7,516,161,289 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 418.14%
อันดับที่ 5: บริษัท โอตานิ เรเดียล จำกัด
บริษัท โอตานิ เรเดียล จำกัด จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 22111 การผลิตยางล้อและยางใน ซึ่งบริษัททำรายได้รวมจากปี พ.ศ.2565 ได้ทั้งหมด 6,442,320,562 บาท ขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 31.23%
อันดับที่ 6: บริษัท หลิ่ง หนัน สตีล จำกัด
บริษัท หลิ่ง หนัน สตีล จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 46622 การขายส่งเหล็ก เหล็กกล้า และโลหะที่นอกกลุ่มเหล็กขั้นมูลฐาน ซึ่งในปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 6,113,840,068 บาท ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 1.66%
อันดับที่ 7: บริษัท สยามทรัค เรเดียล จำกัด
บริษัท สยามทรัค เรเดียล จำกัด ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดไว้ในหมวด C การผลิต และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 22111 การผลิตยางล้อและยางใน ซึ่งสามารถทำรายได้รวมในปี พ.ศ.2565 ได้จำนวนทั้งสิ้น 6,008,761,558 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 6.37%
อันดับที่ 8: บริษัท นำทิพย์ จำกัด
บริษัท นำทิพย์ จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 46321 การขายส่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยปี พ.ศ.2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวมได้ทั้งหมด 5,818,068,311 บาท ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 7.20%
อันดับที่ 9: บริษัท ที.ที.ซี. สตีล 2016 จำกัด
บริษัท ที.ที.ซี. สตีล 2016 จำกัด จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 24109 การผลิตเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐานอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น ทั้งนี้ บริษัทสามารถทำรายได้รวมในปี พ.ศ.2565 ได้ทั้งหมด 5,775,969,070 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 18.87%
อันดับที่ 10: บริษัท สวิซซ์-วัน คอร์ปอเรชั่น จำกัด
บริษัท สวิซซ์-วัน คอร์ปอเรชั่น จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด C การผลิต และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 22111 การผลิตยางล้อและยางใน ซึ่งในปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 5,385,527,260 บาท เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 21.38%
[1] ข้อมูลจากเว็บไซต์ Creden Data (https://data.creden.co/)