Skip to main content

เปิดรายได้ 10 บริษัทของจังหวัดสมุทรสาคร สะท้อนเศรษฐกิจจังหวัดสำคัญของประเทศ

12 มิถุนายน 2567
  • จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปัจจุบันมีประชากรในจังหวัดทั้งหมด จำนวน 589,428 คน
  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดสมุทรสาคร (Gross Provincial Product หรือ GPP) ประจำปี พ.ศ.2564 มีมูลค่า 421,123 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 391,442 บาท

 

จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเป็นจังหวัดชายทะเลอ่าวไทย และมีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่ากลางจังหวัด ถือเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะสัตว์น้ำทะเล จึงมีการประกอบอาชีพด้านการประมงอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ จังหวัดสมุทรสาครยังสามารถจับสัตว์น้ำได้เป็นปริมาณมากที่สุดของประเทศ​ และเป็นจังหวัดที่มีนาเกลือมากที่สุดด้วย

ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดสมุทรสาคร (Gross Provincial Product หรือ GPP) ประจำปี พ.ศ.2564 มีมูลค่า 421,123 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 391,442 บาท ซึ่งโครงสร้างด้านเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาครขึ้นอยู่กับภาคนอกเกษตร โดยสาขาหลักคือสาจาการผลิต ทั้งนี้ 10 บริษัทที่สามารถทำรายได้สูงสุดของจังหวัดสมุทรสาคร ประจำปี พ.ศ.2565[1] มีดังต่อไปนี้

อันดับที่ 1: บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 10751 การผลิตอาหารปรุงสำเร็จแช่แข็ง ซึ่งในปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 39,637,780,012 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 47.05%

อันดับที่ 2: บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน)

บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน) จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดให้อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 10221 การผลิตปลาบรรจุกระป๋อง โดยบริษัทสามารถทำรายได้รวม ประจำปี พ.ศ.2565 ได้ทั้งสิ้น 25,599,778,000 บาท ขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 20.95%

อันดับที่ 3: บริษัท ดีสโตน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

บริษัท ดีสโตน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 45301 การขายส่งชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริมใหม่ของยานยนต์ รายได้รวมของบริษัทประจำปี พ.ศ.2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 19,139,771,368 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 5.83%

อันดับที่ 4: บริษัท เอเพ็กซ์ เซอร์คิต (ไทยแลนด์) จำกัด

บริษัท เอเพ็กซ์ เซอร์คิต (ไทยแลนด์) จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ถูกจัดไว้ในหมวด C การผลิต และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 26103 การผลิตแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีรายได้รวมในปี พ.ศ.2565 ทั้งหมด 17,084,370,077 บาท ขณะที่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 5.05%

อันดับที่ 5: บริษัท เหล็กทรัพย์ จำกัด

บริษัท เหล็กทรัพย์ จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 24109 การผลิตเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐานอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวมได้ทั้งหมด 14,990,784,699 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 5.49%

อันดับที่ 6: บริษัท สยามชัย อินเตอร์เทรด จำกัด

บริษัท สยามชัย อินเตอร์เทรด จำกัด ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 46622 การขายส่งเหล็ก เหล็กกล้า และโลหะที่นอกกลุ่มเหล็กขั้นมูลฐาน บริษัทมีรายได้รวมประจำปี พ.ศ.2565 ทั้งหมด 11,199,810,238 บาท ขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 10.42%

อันดับที่ 7: บริษัท โกลเด้นไพร้ซ์ แคนนิ่ง จำกัด

บริษัท โกลเด้นไพร้ซ์ แคนนิ่ง จำกัด จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 10752 การผลิตอาหารปรุงสำเร็จบรรจุในภาชนะปิดสนิทโดยวิธีสุญญากาศ ซึ่งในปี พ.ศ.2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวมได้ทั้งหมด 10,392,785,977 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 41.98%

อันดับที่ 8: บริษัท สยามชัยสตีล จำกัด

บริษัท สยามชัยสตีล จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 46622 การขายส่งเหล็ก เหล็กกล้า และโลหะที่นอกกลุ่มเหล็กขั้นมูลฐาน โดยปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวม จำนวนทั้งสิ้น 9,695,080,248 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 3.08%

อันดับที่ 9: บริษัท โลหะกิจรุ่งเจริญทรัพย์ จำกัด

บริษัท โลหะกิจรุ่งเจริญทรัพย์ จำกัด ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 25949 การผลิตกระป๋องโลหะและบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ที่ทำจากโลหะซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมประจำปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 9,232,869,726 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 14..45%

อันดับที่ 10: บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน)

บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ถูกจัดไว้ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 19201 การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโรงกลั่นปิโตรเลียม ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวมได้ทั้งหมด 7,757,639,462 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 20.87%
 


[1] ข้อมูลจากเว็บไซต์ Creden Data (https://data.creden.co/

เนื้อหาล่าสุด