ข้อมูลเศรษฐกิจจังหวัดชัยนาท ประจำปี พ.ศ.2565 และ 10 บริษัทที่่ทำรายได้สูงสุด

จังหวัดชัยนาทเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่สูง ที่ราบ ที่ราบลุ่ม และมีพื้นที่ลูกคลื่นลอนตื้น มีภูเขาสลับเป็นบางช่วง แม้จังหวัดชัยนาทจะเป็นเมืองทางผ่านเล็กๆ แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น สวนนกชัยนาท ที่โด่งดังและอยู่คู่จังหวัดมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนทดน้ำเขื่อนแรกของประเทศไทย และวัดสำคัญอีกมากมาย

ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดชัยนาท (Gross Provincial Product หรือ GPP) ในปี พ.ศ.2564 มีมูลค่า 39,261 ล้านบาท ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 135,664 บาท ประกอบด้วยภาคเกษตรและนอกภาคการเกษตร โดยมีสาขาเกษตรกรรมป่าไม้และการประมง เป็นสาขาหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด เนื่องจากจังหวัดชัยนาทเป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ทั้งนี้ 10 บริษัทที่สามารถทำรายได้สูงสุดของจังหวัดชัยนาท ประจำปี พ.ศ.2565^[1] มีดังต่อไปนี้

อันดับที่ 1: บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด

บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 10611 การสีข้าว ซึ่งมีรายได้รวมทั้งหมด จากปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 15,272,883,728 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 133.08%

อันดับที่ 2: บริษัท ธนกรรวมผล 999 จำกัด

บริษัท ธนกรรวมผล 999 จำกัด ถูกจัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 10611 การสีข้าว โดยบริษัทสามารถทำรายได้รวมในปี พ.ศ.2565 ได้ทั้งหมด 3,532,634,351 บาท ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 15.32%

อันดับที่ 3: บริษัท โรงสีนครหลวง ชัยนาท จำกัด

บริษัท โรงสีนครหลวง ชัยนาท จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดให้อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 10611 การสีข้าว รายได้รวมของบริษัทประจำปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 3,151,683,925 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 23.82%

อันดับที่ 4: บริษัท ห้างทองเจริญเพชร

บริษัท ห้างทองเจริญเพชร ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 47732 ร้านขายปลีกเครื่องประดับ โดยบริษัททำรายได้ในปี พ.ศ.2565 ได้ทั้งหมด 1,820,283,750 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 94.98%

อันดับที่ 5: บริษัท สยามธัญชาติ จำกัด

บริษัท สยามธัญชาติ จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ถูกจัดไว้ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 10611 การสีข้าว ซึ่งในปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 1,817,515,355 บาท เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 40.00%

อันดับที่ 6: บริษัท มาริน่า เซนเทอร์ จำกัด

บริษัท มาริน่า เซนเทอร์ จำกัด ถูกจัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 46315 การขายส่งข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการโรงสีข้าว โดยสามารถทำรายได้รวมทั้งหมด จากปี พ.ศ.2565 จำนวนทั้งสิ้น 1,756,297,908 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 2.16%

อันดับที่ 7: บริษัท เจริญทอง888

บริษัท เจริญทอง888 คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 47732 ร้านขายปลีกเครื่องประดับ ซึ่งบริษัททำรายได้รวมประจำปี พ.ศ.2565 ได้ทั้งหมด 1,679,223,951 บาท ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 67.43%

อันดับที่ 8: บริษัท อีซูซุชัยนาท จำกัด

บริษัท อีซูซุชัยนาท จำกัด ถูกจัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 45101 การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน โดยในปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 1,617,340,126 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 35.45%

อันดับที่ 9: บริษัท โรงสีมโนรมย์ ธัญญกิจ จำกัด

บริษัท โรงสีมโนรมย์ ธัญญกิจ จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด C การผลิต และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 10611 การสีข้าว ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมจากปี พ.ศ.2565 ทั้งหมดอยู่ที่ 1,458,234,251 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 11.17%

อันดับที่ 10: บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน)

บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ถูกจัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 14113 การผลิตชุดชั้นในและชุดนอน โดยบริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด ในปี พ.ศ.2565 จำนวนทั้งสิ้น 1,008,934,897 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 19.80%