Skip to main content

เปิดรายได้รวม 10 บริษัท สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจของจังหวัดกำแพงเพชร ปี พ.ศ.2565

12 มิถุนายน 2567
  • จังหวัดกำแพงเพชรเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคกลางตอนบนของประเทศไทย และมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของภาค มีประชากรรวมทั้งหมด 708,775 คน
  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดกำแพงเพชร (Gross Provincial Product หรือ GPP) ในปี พ.ศ.2564 มีมูลค่า 110,844 ล้านบาท มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 141,987 บาท

 

จังหวัดกำแพงเพชรเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคกลางตอนบนของประเทศไทย และมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของภาค นับเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณเก่าแก่หลายแห่ง ซึ่งปัจจุบันจังหวัดกำแพงเพชรถือเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของประเทศ

ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดกำแพงเพชร (Gross Provincial Product หรือ GPP) ในปี พ.ศ.2564 มีมูลค่า 110,844 ล้านบาท มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 141,987 บาท ซึ่งโครงสร้างการผลิตหลักของจังหวัดมาจากภาคอุตสาหกรรม (สาขาการทำเหมืองแร่และเหมืองหิน และสาขาการผลิตอุตสาหกรรม) และภาคการเกษตร อย่างไรก็ตาม 10 บริษัทที่สามารถทำรายได้สูงสุดของจังหวัดกำแพงเพชร ประจำปี พ.ศ.2565[1] มีดังต่อไปนี้

อันดับที่ 1: บริษัท สวัสดิ์ไพบูลย์การเกษตร จำกัด

บริษัท สวัสดิ์ไพบูลย์การเกษตร จำกัด จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 46209 การขายส่งวัตถุดิบอื่นๆ ทางการเกษตรซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น โดยในปี พ.ศ.2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวม ได้ทั้งหมด 13,739,890,888 บาท ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 64.70%

อันดับที่ 2: บริษัท แสงฟ้าโปรดักส์ จำกัด

บริษัท แสงฟ้าโปรดักส์ จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดไว้ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 46315 การขายส่งข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการโรงสีข้าว รายได้รวมของบริษัทประจำปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 12,482,194,236 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 49.24%

อันดับที่ 3: บริษัท ท๊อป พรีเมี่ยม สตาร์ช จำกัด

บริษัท ท๊อป พรีเมี่ยม สตาร์ช จำกัด ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 46315 การขายส่งข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการโรงสีข้าว ซึ่งมีรายได้รวมทั้งหมดในปี พ.ศ.2565 จำนวนทั้งสิ้น 4,677,944,778 บาท เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 92.68%

อันดับที่ 4: บริษัท ไทยเสรี กรุ๊ป 339 จำกัด

บริษัท ไทยเสรี กรุ๊ป 339 จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด C การผลิต และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 10611 การสีข้าว โดยรายได้รวมทั้งหมดจากปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 3,461,149,890 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 40.43%

อันดับที่ 5: บริษัท โรงสีสวัสดิ์ไพบูลย์ จำกัด

บริษัท โรงสีสวัสดิ์ไพบูลย์ จำกัด เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 10611 การสีข้าว ที่สามารถทำรายได้รวม ในปี พ.ศ.2565 ได้ทั้งหมด 3,245,695,757 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 15.89%

อันดับที่ 6: บริษัท ณิชกมล ค้าข้าว 2000 จำกัด

บริษัท ณิชกมล ค้าข้าว 2000 จำกัด ถูกจัดให้เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่ม 46315 การขายส่งข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการโรงสี มีรายได้รวมทั้งหมด ประจำปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 2,736,881,773 บาท ขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 2.24%

อันดับที่ 7: บริษัท ดินสุวรรณเกษตร จำกัด

บริษัท ดินสุวรรณเกษตร จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดให้อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 47214 การขายปลีกข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการสีข้าว โดยบริษัทสามารถทำรายได้รวมทั้งหมดในปี พ.ศ.2565 จำนวนทั้งสิ้น 1,825,871,881 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 17.86%

อันดับที่ 8: บริษัท โรงสีสิงห์โตทองไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด

บริษัท โรงสีสิงห์โตทองไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 10611 การสีข้าว ซึ่งมีรายได้รวมประจำปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 1,709,684,869 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 17.42%

อันดับที่ 9: บริษัท เกียรติคุณไรซ์มิลล์

บริษัท เกียรติคุณไรซ์มิลล์ ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 10611 การสีข้าว ปี พ.ศ.2565 บริษัทสามารทำรายได้รวม ได้ทั้งหมด 1,697,193,597 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 21.09%

อันดับที่ 10: บริษัท ธนะวัฒน์ ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด

บริษัท ธนะวัฒน์ ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดไว้ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 10615 การผลิตแป้งจากเมล็ดธัญพืชอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น โดยในปี พ.ศ.2565 บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 1,635,065,132 บาท ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 56.68%


[1] ข้อมูลจากเว็บไซต์ Creden Data (https://data.creden.co/

เนื้อหาล่าสุด