เปิดข้อมูลเศรษฐกิจจังหวัดเพชรบูรณ์ และโครงสร้างเศรษฐกิจของจังหวัดในปี พ.ศ.2565
- จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลาง เป็นจังหวัดที่ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ และมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยประชากรทั้งหมดของจังหวัดมีจำนวนทั้งสิ้น 973,386 คน
- ปี พ.ศ.2564 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดเพชรบูรณ์ (Gross Provincial Product หรือ GPP) มีมูลค่า 80,199 ล้านบาท และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 88,485 บาท
จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลาง เป็นจังหวัดที่ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ และมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งนี้ จังหวัดเพชรบูรณ์มีประชากรที่เป็นคนพื้นถิ่นและพูดถาษาถิ่นที่แตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ มีประชากรที่อพยพมาจากส่วนต่างๆ ของประเทศ ซึ่งยังใช้ภาษาถิ่นเดิมของตน รวมทั้งชาวไทยภูเขาที่พูดภาษาของตัวเอง จึงทำให้วัฒนธรรมทางภาษาถิ่นของจังหวัดเพชรบูรณ์มีความหลากหลายมาก
สภาพทางเศรษฐกิจของจังหวัดเพชรบูรณ์แบ่งออกเป็นภาคเกษตรและภาคนอกเกษตร ซึ่งเป็นรายได้หลักของจังหวัด โดยในปี พ.ศ.2564 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดเพชรบูรณ์ (Gross Provincial Product หรือ GPP) มีมูลค่า 80,199 ล้านบาท และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) เฉลี่ยอยู่ที่ 88,485 บาท โดย 10 บริษัทที่สามารถทำรายได้สูงสุดของจังหวัดพิษณุโลก ประจำปี พ.ศ.2565[1] มีดังต่อไปนี้
อันดับที่ 1: บริษัท เอส.อาร์.ซุปเปอร์มาร์ท จำกัด
บริษัท เอส.อาร์.ซุปเปอร์มาร์ท จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดไว้ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 47111 ซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยในปี พ.ศ.2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวม ได้ทั้งหมด 2,298,557,474 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 1.92%
อันดับที่ 2: บริษัท สันติอีซูซุเพชรบูรณ์ จำกัด
บริษัท สันติอีซูซุเพชรบูรณ์ จำกัด จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 45101 การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน ซึ่งรายได้รวมของบริษัท ประจำปี พ.ศ.2565 มีจำนวนทั้งหมด 1,766,286,546 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 23.20%
อันดับที่ 3: บริษัท โตโยต้าเพชรบูรณ์ ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด
บริษัท โตโยต้าเพชรบูรณ์ ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 45101 การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน ทั้งนี้ บริษัทสามารถทำรายได้รวมทั้งหมด จากปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 1,414,100,279 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 3.94%
อันดับที่ 4: บริษัท โรงสี อรุณพัฒนา
บริษัท โรงสี อรุณพัฒนา คือธุรกิจขนาดใหญ่ จัดไว้ในหมวด C การผลิต และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 10611 การสีข้าว โดยบริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด จากปี พ.ศ.2565 จำนวนทั้งสิ้น 1,246,462,065 บาท เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 12.87%
อันดับที่ 5: บริษัท วี.สถาปัตย์ จำกัด
บริษัท วี.สถาปัตย์ จำกัด ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในหมวด F การก่อสร้าง และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 41002 การก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ซึ่งปี พ.ศ.2565 บริษัททำรายได้รวมได้ทั้งหมด 968,061,133 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 4.45%
อันดับที่ 6: บริษัท คูโบต้า เพชรบูรณ์ จำกัด
บริษัท คูโบต้า เพชรบูรณ์ จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 45101 การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน โดยปี พ.ศ.2565 บริษัททำรายได้รวมทั้งหมด อยู่ที่ 912,694,755 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 1.60%
อันดับที่ 7: บริษัท พิพัฒน์วัฒนา
บริษัท พิพัฒน์วัฒนา จัดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นธุรกิจในกลุ่ม 46321 การขายส่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งบริษัทมีรายได้รวมจากปี พ.ศ.2565 ทั้งสิ้น 656,319,249 บาท ขณะที่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 13.65%
อันดับที่ 8: บริษัท วีรชัยหล่มสักเซอร์วิส
บริษัท วีรชัยหล่มสักเซอร์วิส คือธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 47300 การขายปลีกเชื้อเพลิงในร้านค้าเฉาพะ สถานี ปั๊ม โดยบริษัทสามารถทำรายได้รวม ในปี พ.ศ.2565 ได้ทั้งหมด 578,694,541 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 27.64%
อันดับที่ 9: บริษัท ทรีเค ออยล์ จำกัด
บริษัท ทรีเค ออยล์ จำกัด ถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ถูกจัดให้อยู่ในหมวด G การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจ 47300 การขายปลีกเชื้อเพลิงในร้านค้าเฉาพะ สถานี ปั๊ม ซึ่งมีรายได้รวมทั้งหมด ในปี พ.ศ.2565 อยู่ที่ 554,362,555 บาท ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) เพิ่มขึ้น 33.54%
อันดับที่ 10: บริษัท จุลไหมไทย จำกัด
บริษัท จุลไหมไทย จำกัด คือธุรกิจขนาดใหญ่ ในหมวด C การผลิต และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ 13112 การปั่นด้านจากเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งในปี พ.ศ.2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวมได้ทั้งหมด 551,119,479 บาท และมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ลดลง 14.45%
[1] ข้อมูลจากเว็บไซต์ Creden Data (https://data.creden.co/)