อดีตพนักงานบริษัทหันหลังให้งานประจำเพราะพิษเศรษฐกิจ กลับมาทำสวนที่บ้านเกิดทดลองปลูกพืชหลายชนิด จนพบพันธุ์มะขามเตี้ย ให้เนื้อเยอะ ที่สำคัญต้นไม่สูงเอื้อมเก็บได้เลย จึงเป็นที่นิยมนำพันธุ์ไปปลูกสร้างรายได้ต่อปีหลักแสนต้นๆ
นายมณี สุรัตนะ เจ้าของสวนขนุนนายพล ตั้งอยู่เลขที่ 13 /1 หมู่ 3 ต.หนองปลิง อ.หนองแค จ.สระบุรี เปิดเผยความเป็นมาของการปลูกมะขามพันธุ์เตี้ย ว่า เดิมเป็นพนักงานบริษัท แต่เกิดความไม่แน่นอนในระบบงาน ประกอบกับเป็นช่วงยุคฟองสบู่เมื่อปี 2540 จึงลาออกมาเป็นทำสวนที่บ้าน เดิมมีต้นขนุนปลูกอยู่แล้ว ได้ผลผลิตดี จากนั้นจึงคิดหาพืชอื่นๆ มาปลูกเพิ่มเติม โดยดูจากความต้องการของคน จนทราบว่าต้องการไม้มงคล คือ มะขาม จึงได้เอามะขามเพาะเมล็ดมาปลูก
“พอปลูกได้จึงมีความคิดขึ้นมาใหม่ว่าในเมื่อทาบแล้ว ทำไมต้องทาบแค่ 20-30 กิ่ง จึงได้ทาบเพิ่มเป็นร้อยๆ กิ่ง เพื่อที่จะมาเปิดตลาดขยายให้กับลูกค้าคนอื่นๆ ต่อไป จากนั้นจึงได้นำกิ่งที่ทาบไว้ มาขยายลงพื้นที่ในสวนบางส่วน ที่มันเป็นที่ลุ่มต่ำ ตามความเชื่อถือของตน มะขามสามารถปลูกได้ในที่น้ำท่วม ก็เลยนำมาปลูกในพื้นที่ๆ มีน้ำท่วม ประมาณ 10 กว่าต้น ซึ่งก็ให้ผลผลิตออกมาดีตรงตามสายพันธุ์ของต้นแม่พันธุ์ที่เกิดต้นใหม่ต้นแรก” นายมณี กล่าว
นายมณี กล่าวว่า จุดเด่นของต้นมะขามที่สวนแห่งนี้ คือเตี้ยไม่สูงมาก ขนาดของฝักที่ออกมาคือใหญ่ อวบ และยาว เนื้อด้านในแน่น ลักษณะโดยทั่วไปของต้นมะขามคือต้องมีขนาดสูงใหญ่ การเก็บเดี่ยวฝักคือต้องปีนขึ้นไปบนต้นแล้วใช้ไม้สอย หรืออาจใช้วิธีขย่มบนต้น แล้วให้ฝักล่วงไปบนพื้นลงไปเก็บอีกที แต่วิธีนี้ค่อนข้างเสี่ยงอาจเกิดอะชันตรายได้ หากกิ่งเกิดหักล่วงลงมา แต่ถ้าเป็นมะขามของสวนนายพล แค่ยืนบนพื้นก็เอื้อมมือเก็บได้แล้ว แต่หากต้องใช้ไม้สอย ก็ไม่สูงมากนัก ที่สำคัญมะขามของที่นี่ ออกฝักให้เก็บได้เกือบทั้งปี
“เป้าหมายที่จริงแล้วในตอนแรกๆ ไม่ได้จะปลูกเพื่อเก็บผลผลิต แต่เน้นขายกิ่งพันธุ์ ดังนั้นจึงได้ปลูกในระยะที่ถี่นิดนึง และคุณสมบัติความโดดเด่นของพันธุ์นี้ เป็นมะขามเตี้ยที่สุดในบรรดามมะขามทั้งหมดของเมืองไทย เป็นทรงพุ่มเตี้ย ทรงพุ่มสวยงาม ตนเคยให้คำนิยามของมะขามเปรี้ยวไว้ว่า เป็นไม้สะเทือนน้ำ สะเทือนบก สามารถปลูกได้ทั้งสภาพแล้งชอบ น้ำท่วมไม่กลัว” นายมณี กล่าว
นายมณี กล่าวว่า ถามว่าผลตอบแทนดีไหม ตามหลักการจริงๆ แล้ว เน้นคุณภาพ ซึ่งเวลาทำกิ่งพันธุ์ออกมาทีนึง ประมาณ 2,000 กิ่ง ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150 บาทต่อกิ่ง ตกประมาณ 2,000 กิ่งขึ้นต่อปี ขึ้นอยู่ช่วงจังหวะการทำหรือการหาต้นตอมาได้ แต่ถ้าเป็นพวกผลผลิตจากฝัก จะตกอยู่ 1 ปี ประมาณ 300,000 -400,000 บาท โดยเฉลี่ยจะดูในระดับนี้ ซึ่งยังไม่รวมจากรายได้ส่วนอื่น ตัวนี้ได้จากรายได้มะขาม ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ
“ถ้าเปรียบเทียบกับความรักในการทำงาน และความรักในอาชีพ ซึ่งอาชีพนี้ต้องมีใจรักแล้วจะมีความสุข บางคนยังไม่ลองสัมผัส ก็อยากให้ลองสัมผัสดูไม่เสียหาย เพราะว่ามะขามเปรี้ยว เป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าหากได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชน ที่สามารถส่งเสริมได้ดี เกษตรกรไทย จะไม่อดตาย อย่างน้อยๆ ปลูกไว้ 3-4 ต้น ครอบครัวนึงก็มีรายได้เสริม หรือมีรายได้พอเลี้ยงครอบครัวได้” นายมณี กล่าว
นายมณี กล่าวว่า ในอนาคตพร้อมที่จะเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้ได้ ชาวบ้านหรือคนที่สนใจ สามารถเข้ามาเรียนรู้วิธีการทาบกิ่ง การขยายพันธุ์ หรือการปลูก เราให้คำแนะนำได้ ไม่หวง เพราะตนถือว่า ตัวเองจบมาจากสายเกษตรโดยตรง ยินดีที่จะช่วยทุกท่าน ที่ต้องการให้ช่วยเหลือ เข้ามาเรียนรู้ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อผลงานได้ที่ สวนขนุนนายพล เฟซบุ๊ก มณี สุรัตนะ และเพจสวนขนุนนายพล