ขาย "ว่าว" สร้างรายได้ดี กระจายรายได้สู่ชุมชนระดับรากหญ้า พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว
นายอัศวัน เมฆารัฐ ผู้จัดงาน "ออกซิเจนนราธิวาส" เปิดเผยว่า สถานที่ท่องเที่ยวริมชายหาดอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว (เขาตันหยง) จ.นราธิวาส ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ได้นำพ่อค้าแม่ค้าจาก 4 ภาค มาเปิดพื้นที่ขายสินค้า กว่า 200 บูธ แต่จุดเด่นของงาน อยู่ที่การนำว่าวแฟนซีรูปทรงสัตว์ต่างๆ รวมถึงตัวการ์ตูนที่มีสีลวดลายฉูดฉาดชักขึ้นเต็มบริเวณริมชายหาด ทำให้ริมชายหาดอ่าวมะนาวกลายสภาพเป็นสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี หรือ สวรรค์ชั้นที่ 6 ที่ชาวนราธิวาสและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาทำให้สร้างรายได้กระจายสู่ชุมชนอย่างชัดเจน
"การจัดงานในครั้งนี้คาดว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงาน 10,000 คนต่อวัน เงินสะพัดหลายล้าน เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวในพื้นที่และต่างพื้นที่รวมทั้งชาวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยว อยากให้กิจกรรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในปฏิทินการท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาส" นายอัศวัน กล่าว
ในงานนี้นายสัญญา เกตุรักษ์ ชาว จ.สงขลา และสมาชิกในครอบครัว กำลังช่วยกันจำหน่ายว่าวชนิดต่างๆให้กับลูกค้า และช่วยกันทำว่าว อาทิ ว่าวควาย ว่าวนก ว่าววงเดือน ว่าวปักเป้า ว่าวจุฬาและอื่นๆ ซึ่งมีราคาตั้งแต่ตัวละ 300 ถึง 6,000 บาท ใน 3 ขนาด คือ ว่าวขนาดเล็ก กลางและว่าวขนาดใหญ่
เมื่อสอบถามทราบว่าทำว่าวชนิดต่างๆ จำหน่ายไปตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการจัดงานโดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมของในทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจแบบครัวเรือนที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ที่ลงทุนแรกและฝีมือส่วนวัสดุไม้ไผ่ที่ใช้เป็นไม้ไผ่สีสุกที่มีเนื้อหยุ่นเหนียวไม่หักง่ายที่ปลูกในสวน ต้องมีอายุ 2 ปีขึ้นไป โดยไม้ไผ่ขนาดความยาว 10 เมตร สามารถทำว่าวได้มากถึง 5 ตัว