เจ้าของสวนทุเรียนหนึ่งเดียวที่นราธิวาส ส่งผลผลิตขายจีน เผยเคล็ดลับการดูแลทุเรียน ให้หมั่นดูแลโรคระบาดหน้าแล้ง
นายนิโรธ ศรีสุวรรณ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 บ้านเขาสามสิบ ม.6 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเจ้าของสวนทุเรียนสงวนทรัพย์สุวรรณ และเป็นสวนทุเรียน 1 ใน 8 ที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการคัดเลิกจากมูลนิธิปิดทองหลังพระ เพื่อนำผลผลิตทุเรียนส่งจำหน่ายให้กับประเทศจีน และเป็นวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญที่ส่วนราชการเชิญตัวไปให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกและบำรุงรักษาต้นทุเรียนให้กับเกษตรกรในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ที่ใช้พื้นที่เนินเขา จำนวน 48 ไร่ ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองเป็นเวลานานกว่า 9 ปี โดยปีที่ผ่านมาได้ส่งผลทุเรียนไปจำหน่ายให้กับประเทศจีน จำนวนกว่า 8 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 180 บาท ส่วนผลผลิตที่เหลือจากคัดเกรดได้นำไปจำหน่ายที่ศูนย์การเกษตรตลาดมาลายูบางกอก อ.เมือง จ.ยะลา
นายนิโรธ แนะนำว่าในช่วงฤดูแล้งเกษตรกรที่มีปริมาณน้อย อย่างน้อยต้องมั่นรดน้ำต้นทุเรียนให้ชุ่มแบบวันเว้นวัน ถ้าเริ่มมีช่อดอกหากขาดน้ำช่อดอกจะร่วงและอาจจะยืนต้นตายได้ในอนาคต ประการสำคัญในช่วงฤดูแล้งจะมีโรคระบาดที่มากับกระแสลม คือ พวกเพลี้ยไฟและไรแดงแอฟริกัน ที่เป็นศัตรูพืชที่ทำลายใบแก่ของต้นทุเรียน ซึ่งศัตรูพืชชนิดนี้มีความต้านทานต่อสารกำจัดหรือดื้อยา
จะสังเกตได้ง่ายหากเพลี้ยไฟหรือไรแดงแอฟริกัน ได้ระบาดสู่ต้นทุเรียนที่ปลูกไว้ ใบทุเรียนจะมีลักษณะเป็นจุดประสีขาวและสีคล้ำกระจายอยู่ในระยะแรก ต่อมาจุดประสีขาวหรือสีคล้ำจะแผ่ขยายออกเป็นบริเวณกว้าง จนทำให้ทั่วทั้งใบทุเรียนมีอาการขาวซีดไม่เขียวเป็นมันเหมือนใบปกติ และมีคราบสีขาวของไรเกาะติดอยู่บนใบเป็นผงขาวๆคล้ายฝุ่นจับ หากการทำลายของไรยังคงดำเนินอยู่ต่อไปอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง อาจทำให้ทุเรียนใบร่วงมีผลกระทบต่อการออกดอกและติดผลของทุเรียนได้ เจ้าของสวนทุเรียนควรใช้สารกำกัดแมลงอิมิดาคลอพริดในการฉีดพ่นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
"ในช่วงฤดูแล้งการดูแลต้นทุเรียนที่สำคัญคือการให้น้ำ ต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยๆ วันเว้นวันครั้งละ 20 ถึง 30 นาทีในช่วงระยะดอก ศัตรูที่พบในหน้าแล้งก็มีเพลี้ยไฟกับไรแดงแอฟริกัน หมั่นดูแลและพ่นยา 2 รอบ เพื่อทำลายวงจร ในช่วงระยะดอกปุ๋ยทางดินจะไม่ใส่ โดยจะเน้นการฉีดพ่นเข้าดอกเข้าใบและใต้ท้องกิ่งทรงพุ่ม ผลผลิตทุเรียนจะให้ราคาดีตอนต้นฤดูกับปลายฤดู และการไว้ดอกของแต่ละต้น ต้องดูว่าปริมาณดอกรุ่นไหนเยอะเราก็ไว้รุ่นนั้นส่วนที่เหลือเราก็ตัดทิ้ง คือต้องเอาไว้รุ่นเดียวใน 1 กิ่งเพื่อง่ายต่อการดูแล ผลผลิตที่ตลาดต้องการอยู่ที่น้ำหนักผลละ 2 ถึง 5 ก.ก. คือจะติดไซส์ A B อีกอย่างการไว้ผลถ้าเราไว้น้อยเกินไปผลก็จะมีขนาดใหญ่ราคาก็จะตก เราต้องดูสภาพใบต้นทุเรียนของเรา สามารถรับน้ำหนักได้กี่กิโลกรัมต่อต้น ถ้าใบสมบูรณ์ใบเยอะใบหนาเราก็สามารถไว้ลูกได้เยอะ" นายนิโรธ กล่าว