Skip to main content

ร่วมถอดรหัสของคนปัตตานีในเทศกาล ‘ปัตตานีดีโคตร Pattani Decoded 2024’

10 สิงหาคม 2567

 

มูฮำหมัด ดือราแม

 

Melayu Living กลุ่มนักสร้างสรรค์ในย่านเมืองเก่าปัตตานีร่วมกับภาคีเครือข่าย เตรียมจัดงาน Pattani Decoded 2024 ในธีมที่ชื่อว่า “Unparalleled” ชวนผู้คนมาร่วมกันถอดรหัสคนปัตตานี ผ่านรสนิยมการแต่งกายอันจัดจ้านจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม - 1 กันยายน 2567 ใน 4 ย่านของเมืองคือ ถนนปัตตานีภิรมย์ ตลาดเทศวิวัฒน์ ถนนปรีดา และชุมชนจะบังติกอ โดยการสนับสนุนจากบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA)


เทศกาลปัตตานีดีโคตร ถอดรหัสมรดกทางวัฒนธรรม ผ่านความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ

ฮาดีย์ หะมิดง ประธานจัดงาน Pattani Decoded 2024 กล่าวว่า ความเป็นคนปัตตานีนั้นต้องต่อรองอยู่เสมอ ระหว่างความเป็นจารีตกับสมัยใหม่ การยืนหยัดรักษาและการเปลี่ยนแปลง ความเป็นตัวเองและความเป็นอื่น จึงอยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันถอดรหัสความจัดจ้านของคนปัตตานีที่สำแดงผ่านรสนิยมการแต่งกาย

“สิ่งเหล่านี้ คือ การต่อรองระหว่างเส้นขนานที่แตกต่างกัน โดยมีผลลัพธ์ผ่านวิธีคิด วัฒนธรรม รสนิยมต่าง ๆ เดินทางผ่านมาและออกไป หลายเรื่องเป็นความทรงจำอันสวยงาม พร้อมพัฒนา หากผู้คนยังคงอยู่เพื่อหลอมรวมคุณค่าเก่าแก่ผสมกลมกลืนสิ่งใหม่”


ความหมายที่ซ่อนอยู่ของ Pattani Decoded

ราชิด ระเด่นอาหมัด สถาปนิก/นักออกแบบเมืองจากกลุ่ม Melayu Living กล่าวว่า Pattani Decoded ในความหมายที่ซ่อนอยู่ในภาษาไทย ก็คือ ปัตตานีดีโคตร คือ “เราจะบอกว่าที่นี่มันมีของดีอยู่เยอะ”

ราชิด กล่าวว่า Pattani Decoded คือ การหยิบเรื่องเล่าที่น่าสนใจในพื้นที่มาเล่าด้วยภาษาใหม่ ทั้งเรื่องการออกแบบ ความคิดสร้างสรรค์และการตีความบางอย่างในสิ่งที่มีอยู่แล้ว โดยชวนศิลปิน คนทำงานออกแบบ ชาวบ้าน คนทั่วไป คนต่างถิ่นที่สนใจมาคุยมาร่วมกันออกแบบ

ราชิด กล่าวว่า Pattani Decoded จัดครั้งแรกปี 2019 พูดถึงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 12 หมวดใน 3 จังหวัด โดยเชิญทั้งผู้ประกอบการ นักออกแบบ ศิลปินหรือคนทำธุรกิจมาคุยกันว่าควรมีเทศกาลประจำปี แต่ก็หยุดไปในช่วงโควิดระบาด แล้วจัดอีกครั้งในปี 2022 จึงทำให้เห็นว่าควรจะจัด 2 ปีครั้งจึงจะเหมาะ

“Pattani Decoded ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง แต่อยู่ที่กระบวนการความคิดว่า เราทำงานกับใคร คิดด้วยคอนเซ็ปต์อะไร จึงค่อนข้างใช้เวลาในกระบวนการนี้ ดังนั้น อีเวนท์ คือเครื่องมือหนึ่งที่เรามองว่า ต่อให้งานผ่านไปแล้ว 2 ปี แต่ทำไมยังมีการพูดถึงอยู่ แสดงว่าคุณได้อะไรบางอย่างไปแล้ว ไม่ใช่จากอีเวนท์ แต่จากสิ่งที่เราสื่อออกมา”


Pattani Decoded คือ การทำงานร่วมกับคนจำนวนมาก

ฮาดีย์ กล่าวว่า หัวข้อที่เลือกส่วนใหญ่เป็นประเด็นที่เป็นทุนของท้องถิ่น มรดกทางภูมิปัญญาและมรดกด้านวัฒนธรรมที่ไม่ได้หยิบจับหรือพูดคุยแบบผิวเผิน แต่พูดถึงทุนทางวัฒนธรรมที่สลับซับซ้อน มีที่มาที่ไป เกี่ยวพันกับคนจำนวนมากหรืออยู่กับพวกเรามานาน โดยต้องใช้เวลาทำความเข้าใจจนตกผลึกทางความคิด ไม่เฉพาะกับคนทำงานเท่านั้น แต่ต้องตกผลึกด้วยว่า จะออกแบบและนำเสนออย่างไร จะทำงานร่วมกับใคร เป็นกระบวนการที่ใช้เวลา ต่อให้หยิบเรื่องเล็กๆ มาคุยก็ต้องละมุนละไมกับมัน มันคือการเอนเกจกับคนอีกเยอะ

ฮาดีย์ กล่าวว่า Pattani Decoded ใช้เวลาเตรียมงานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หลังงานก็ต้องใช้เวลาในการคุยต่ออีกหลายเดือน ถ้าจัดปีต่อปีก็จะไม่ทันได้คิดและไม่มีช่วงเวลาดูว่าสร้างการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างกับพื้นที่


นิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจในงาน Pattani Decoded 2024

UNPARALLELED บอกเล่าถึงไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงของเมือง ที่ส่งผลถึงผู้คนที่อยู่อาศัยในเมืองปัตตานีปัจจุบัน การจัดแสดงรูปแบบของเสื้อผ้าที่สะท้อนถึงยุคต่างๆ ประกอบด้วย

ฮิญาบ 
นิทรรศการที่จะชวนให้ผู้คนสนทนาถึงฮิญาบในแง่มุมต่าง ๆ ผ่านมุมมองของนักเขียน นักสร้างสรรค์ และช่างภาพ

Fashion Lab 
นิทรรศการห้องทดลอง ปะติดปะต่อเรื่องราว นำเสนอเบื้องหลังวิธีคิดด้านการแต่งกายของผู้คนในพื้นที่ ผ่านมุมมองด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม กระแสสังคม รวมทั้งเทรนด์แฟชั่นในยุคต่าง ๆ

Made in Pattani 
นิทรรศการที่ Pattani Decoded ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) จัดแสดงผลงานของ 10 ผู้ประกอบการเก่าแก่ในย่านที่ทำงานร่วมกับนักสร้างสรรค์ทั้งในและนอกพื้นที่ โดยใช้เครื่องมือออกแบบและความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาต่อยอดบนพื้นฐานของทักษะดั้งเดิมและเอกลักษณ์ของพื้นที่

นิทรรศการแสง Pattani Decoded 
ได้ร่วมกับทีม LIGHT IS ออกแบบและจัดแสดงแสงไฟบนอาคารมัสยิดรายอฟาฏอนี สถานที่ประวัติศาสตร์และศูนย์รวมกิจกรรมทางศาสนาของคนในชุมชนร่วม 180 ปี ขับเน้นให้อาคารมัสยิดแห่งนี้เปล่งประกายในเวลากลางคืน เพื่อสะท้อนถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมอันสวยงามและเรื่องราวรายล้อมมัสยิดแห่งนี้ตลอดมา

เกิดบนเรือนมลายู 
กิจกรรมเปิดตัวหนังสือเกิดบนเรือนมลายู จัดพิมพ์โดย Patani NOTES ที่รวบรวมเรื่องราวอันแสนธรรมดาสามัญของชีวิตที่เกิดและเติบโตบนเรือนมลายู แต่ร้อยรวมเรื่องราวจน กลายเป็นสิ่งแตกต่างจากที่อื่น

Jentayu
หนึ่งใน Installation ของงานที่ถอดรหัสจากบันทึกของคณะสำรวจชาวอังกฤษ W.W. Skeat ที่เดินทางมาถึงเมืองปัตตานีในปี 1899 ในห้วงเวลาที่จะมีงานแต่งงานสำคัญของเมือง Skeat ได้บันทึกรายละเอียดของขบวนแห่งานแต่ง เช่น ต้นบุหงาซีเร๊ะ ประดับด้วยนกหลายชนิด โดยเฉพาะนก Jentayu ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนกที่มีความสำคัญในวรรณคดีมลายู Skeat ยังได้บันทึกพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงานไว้อย่างน่าสนใจ

Bek Woh 
กิจกรรมซึ่งมีรากคำมาจากภาษาอังกฤษว่า Big Work หมายถึงการจัดกิจกรรมกินเลี้ยงในชุมชนที่ต้องใช้แรงงานของผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะงานแต่งงาน ช่วงเวลานี้ทุกคนจะได้กินอาหารเมนูพิเศษที่มักจะมีอยู่แค่ในงานแต่ง เช่น Gula Besar หรือแกงเนื้อชิ้นใหญ่ที่หาทานยากในช่วงเวลาปกติ

Baju Guni 
นิทรรศการที่จัดแสดงในห้องของโรงแรมแพลเล็สอันเก่าแก่จำนวน 6 ห้อง ในแต่ละห้องจะพบกับเสื้อผ้าชั้น Rare ที่ถูกคัดสรรจากเพื่อนพ้องในวงการเสื้อผ้ามือสองจำนวนหกเจ้า เสื้อผ้ามือสองเหล่านั้นมีมูลค่าตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน ขณะที่เสื้อผ้าบางตัวไม่สามารถประเมินค่าได้ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับที่มาของเสื้อผ้าตัวนั้น

PRIDA St.
ตลาดสร้างสรรค์ข้างโรงแรมจงอาที่จะเป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบการแฟชั่นรุ่นใหม่ในด้านต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้า ของทำมือ เป็นต้น

Lorong Ruedee
ศูนย์รวมของเสื้อผ้าวินเทจและรถวินเทจที่จะตั้งอยู่หน้าตลาดเทศวิวัฒน์

Pasar Raya
ตลาดชุมชนบริเวณมัสยิดรายอ เป็นการจัดกิจกรรมตลาดชุมชนสร้างสรรค์ ชูจุดเด่นและอัตลักษณ์ของพื้นที่ชุมชนย่านเมืองเก่าจะบังติกอ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบเป็นเครื่องมือสำคัญ ด้วยการพัฒนาตลาดสร้างสรรค์ของชุมชน

เกลือและคราม 
นิทรรศการที่จับมือกับ Fab Café ทดลองนำเกลือมาพัฒนาให้เป็นสินค้าในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากต้นคราม

NEW TCDC PATTANI 
ปัตตานีได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 10 จังหวัด ของ NEW TCDC นิทรรศการนี้จะบอกเล่าถึงวิธีคิดการออกแบบ NEW TCDC แห่งนี้ที่ตั้งขึ้นบนความคิดที่ว่า เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่หลอมรวมผู้คนและยุคสมัยของเมืองปัตตานีเข้าไว้ด้วยกัน

อนาคตของ TCDC PATTANI คืออนาคตของทุกคนที่สามารถเข้าถึงและใช้งาน TCDC แห่งนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ TCDC PATTANI จะทำหน้าที่เป็น PLATFORM ที่ทุกคนสามารถออกแบบอนาคตได้ร่วมกัน


จุดบรรจบของเส้นขนานใน 4 ย่านที่จัดสำแดงในงาน Pattani Decoded 2024

จุดเริ่มต้นของเมืองปัตตานี ณ สถานที่ตั้งแห่งนี้ เกิดขึ้นในช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยการเป็นเมืองติดแม่น้ำทำให้มีการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ที่มาพร้อมกับธุรกิจตามเส้นสัญจรทางน้ำ การผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างคนที่อยู่เดิม อิทธิพลทางวัฒนธรรมของชาวมลายูกลันตัน-ตรังกานูและจีนที่อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามา ปัตตานียังมีผู้คนอีกมากหน้าหลายตาที่เรียกเมืองแห่งนี้ว่า “บ้าน” แม้มีภูมิหลังและที่มาอันแตกต่างหลากหลาย

ชุมชนที่เป็นเสาหลักสำคัญของเมืองปัตตานี คือ ชุมชนกือดาจีนอ และชุมชนจะบังติกอ ในบันทึกของบุคคลสำคัญที่แวะเวียนมาเยือนเมืองแห่งนี้ มักจะกล่าวถึงชุมชนทั้งสองแห่ง

ครั้งหนึ่งความเจริญกระจุกตัวอยู่ริมแม่น้ำในยุคที่การเดินทางเข้ามาออกไปของสินค้ายังคงพึ่งพาเส้นทางน้ำ ด้วยยุคสมัยที่ผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา จุดที่เคยเป็นศูนย์กลางความเจริญในยุคสมัยหนึ่งก็ค่อยขยับขยายออกไปยังย่านอื่นของเมือง


ถนนปัตตานีภิรมย์ เคยรุ่งเรืองสู่เงียบเหงา และกำลังเป็นย่านสุดฮิป

ถนนปัตตานีภิรมย์อยู่ในชุมชนกือดาจีนอ เป็นย่านเมืองเก่าที่เรืองรองทางการค้าในอดีต บ้านหลายหลังในย่านนี้บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ความเจริญของเมือง มีบ้านบุคคลสำคัญที่เคยมีคุณูปการให้กับเมือง เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป ความเป็นศูนย์กลางการค้าก็ขยับขยายออกไปสู่ย่านอื่น

แม้จะเงียบเหงา แต่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีผู้คนพยายามที่จะฟื้นฟูให้ย่านนี้เป็นที่สนใจของผู้คนอีกครั้ง กลุ่มมลายูลิฟวิ่ง อีกทั้ง โครงการวงแหวนพหุวัฒนธรรมเมืองปัตตานีที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และกระบวนการวิจัยปรับเปลี่ยนย่านนี้ให้กลับมาสว่างไสวอีกครา

ปัจจุบันย่านนี้เต็มไปด้วยร้านกาแฟมากมาย เป็นย่านที่ลงตัวระหว่างความเป็นเมืองเก่าและความฮิปแห่งยุคสมัย คนรุ่นใหม่จำนวนมากมาจิบกาแฟและหามุมเก๋ๆ ถ่ายรูปในย่านนี้


ถนนปรีดา อดีตศูนย์กลางรสนิยมสมัยใหม่

ถนนปรีดาเคยเป็นย่านที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน เคยเป็นที่ตั้งของวิกคิงส์ และโรงหนังอีกหลายโรงในละแวกเดียวกัน เป็นย่านที่เคยเป็นที่ชุมนุมของช่างตัดเสื้อและร้านถ่ายรูปซึ่งอยู่คู่เมืองมากว่า 70 ปี ที่สำคัญเป็นที่ตั้งโรงเตี๊ยมชั้นหนึ่งของเมืองปัตตานี คือโรงแรมจงอา ซอยข้างโรงแรมสามารถเดินทะลุไปยังตลาดนัดโต้รุ่ง

ไม่ไกลจากถนนเส้นนี้มากนักเป็นที่ตั้งค่ายเพลงภาษามลายูที่สร้างความสุนทรีย์ให้ผู้คนมาตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ความคึกคัก ความเรืองรองที่เคยอยู่คู่ย่านนี้ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ถูกดิสรัปต์ด้วยปัจจัยการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ


ตลาดเทศวิวัฒน์ อดีตศูนย์รวมความเจริญของเมือง

ตลาดเทศวิวัฒน์ หรือ ตลาดไกล เคยเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมความเจริญของเมืองปัตตานี นอกจากจะเป็นตลาดสดแล้วยังเป็นแหล่งร้านทองและแหล่งขายผ้า เป็นจุดจอดรถโดยสารสาธารณะเกือบทุกสายที่วิ่งเข้ามาในเมืองปัตตานี แม้ยังคงทำหน้าที่ตลาดสดอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ความเป็นศูนย์กลางก็ค่อยๆ กระจายตัวไปยังย่านอื่นตามการขยายตัวของเมือง


จะบังติกอ ชุมชนใหญ่ที่รายล้อมด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์

จะบังติกอเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ประวัติศาสตร์ของเมืองปัตตานีตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมัสยิดรายอที่ก่อร่างและเติบโตคู่กับการสถาปนาของเจ้าเมืองปัตตานีเมื่อครั้งอดีต เป็นสถานที่ตั้งวังที่เจ้าเมืองเคยพำนักอาศัย มี“กูโบร์โต๊ะอาเย๊าะห์” สุสานที่ฝังพระศพเจ้าเมืองหลายพระองค์ของเมืองปัตตานีและคนสำคัญอีกหลายท่าน

ชุมชนแห่งนี้ ยังเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับจารีตและขนบความเป็นมลายู ทั้งรูปแบบบ้านเรือนและทักษะของช่างฝีมือ สิ่งเหล่านี้ค่อย ๆ กลืนหายไปกับยุคสมัยของการเปลี่ยนแปลง


อาคารเด่นในย่าน Melayu Living

ที่ตั้งของกลุ่มมลายูลิฟวิ่งแห่งนี้ เป็นบ้านของตระกูลวัฒนายากรซึ่งเคยเป็น‘เจ้าภาษีนายอากร’ ผู้ทำหน้าที่เก็บภาษีแทนรัฐบาลในอดีต ย่านนี้เคยเป็นจุดศูนย์กลางการค้าในเมืองจนเวลาล่วงผ่านไปทำให้ย่านนี้เงียบเหงาลงไป และกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์

อาคารสองห้องแห่งนี้ กำลังจะเป็นที่ทำการศูนย์สร้างสรรค์และการออกแบบปัตตานีหรือ TCDC Pattani


ตึกขาวหน้าตลาดเทศวิวัฒน์

ตลาดสดแห่งนี้เกิดขึ้นจากการมองการณ์ไกลของคหบดีท่านหนึ่งที่มองว่า การมีตลาดสดจะทำให้พื้นที่กลายเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจอย่างแท้จริง และก็เป็นเช่นนั้นเมื่อตลาดแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางอาหารสด ร้านขายผ้า ร้านทอง จุดจอดรถของรถสาธารณะที่วิ่งเข้าเมือง

การเจริญเติบโตของเมืองและการมีตลาดสดอีกหลายแห่งที่ผุดขึ้นใหม่ ทำให้ตลาดแห่งนี้เงียบเหงาลงไปบ้าง ตรงหน้าตลาดจะมีตึกขาวสูง 3 ชั้นตระหง่านอยู่ เคยเป็นร้านขายของหลายชนิด กระทั่งเคยเป็นสถานที่จัดนิทรรศการศิลปะมาแล้ว


โรงแรมจงอา

ถนนปรีดา คือ ถนนที่คึกคักของเมืองมาเนิ่นนานในย่านนี้ มีโรงแรมแห่งหนึ่งซ่อนตัวอย่างนิ่งสงบคอยทำหน้าที่รับใช้ผู้คนที่มาเยือนปัตตานีตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา โรงเตี๊ยมแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า โรงแรมปรีดา และเปิดมาตั้งแต่ก่อนปี 2500

จุดเริ่มต้น คือ การเป็นเพิงขายกาแฟให้ผู้คน กระทั่งธุรกิจเติบโตกลายเป็นโรงเตี๊ยม แต่เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญคือ เหตุการณ์ไฟไหม้ในเมืองทำให้ธุรกิจที่สร้างมาแทบสูญสลายไปต่อหน้าต่อตา แต่ความใจสู้และการช่วยเหลือจากผู้คนในย่าน ทั้งกำลังแรงงานและการช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เจ้าของกิจการลุกขึ้นสู้เพื่อทำโรงแรมอีกครั้งในปี 2502 โดยตั้งชื่อใหม่เป็นโรงแรมจงอา จุดเริ่มของจงอา คือ การเป็นโรงเตี๊ยมที่ขายติ่มซำและกาแฟ

ไม่ไกลมากนักเป็นที่ตั้งของโรงหนังที่เรียกกันว่า วิกคิงส์ โรงหนังแห่งนี้ใช้วิธีพากย์เสียงสดและเป็นที่แสดงมหรสพ จึงทำให้มีผู้คนในวงการบันเทิงมานอนพักยังโรงเตี๊ยมแห่งนี้ อาทิเช่น อาจารย์สุรพล สมบัติเจริญ และ พุ่มพวง ดวงจันทร์

ธุรกิจของครอบครัวแห่งนี้เติบโตและขยายพื้นที่ออกไป จากโรงเตี๊ยมที่ขายติ่มซำเพิ่มเป็นคาเฟ่และตึกสำหรับส่วนต่อขยายของโรงแรม จนถึงปี 2540 ด้วยพิษฟองสบู่คาเฟ่ต้องปิดตัวลง ไม่มีใครออกมาจับจ่ายซื้อของ ขณะที่ธุรกิจประมงซึ่งหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของปัตตานีเข้าสู่ช่วงขาลง ทำให้กงล้อธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมืองหยุดชะงักและซบเซามาจนถึงปัจจุบัน


บริษัทปัตตานีอุตสาหกรรม (1971) จำกัด

บริษัทแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นด้วยการนำนวัตกรรมการแปรรูปสินค้าจากยางพารา จนทำให้บริษัทสามารถยืนหยัดอยู่ได้มาเกินครึ่งศตวรรษ จิตวิญญาณแห่งการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมถูกส่งต่อให้ลูกหลานที่รับช่วงต่อธุรกิจ กระทั่งการปรับปรุงอาคารแห่งนี้ยังตั้งอยู่บนพื้นฐานแนวคิดที่ล้ำหน้า โดยนำวัสดุมา Upcycling ตั้งแต่พื้นหินขัดที่นำเศษพลาสติกไฟแช็กมาเป็นส่วนผสม ไม้เก่าจากการรื้อโครงสร้างเดิมของอาคาร façade จากแผ่นทะเลจรที่เป็นขยะรองเท้าจากทะเล โดยใช้ 2 สีคือ แดงและฟ้า เขียว เพื่อสื่อสารถึง Patex (แดง) และ Original (ฟ้า เขียว) ที่สามารถแปรอักษรได้ตามใจชอบ และงานโมบายที่ทำจากโมลด์ลูกโป่งที่เป็นธุรกิจเดิมของปัตตานีอุตสาหกรรม


มัสยิดรายอ

มัสยิดหลวงที่ก่อร่างและเติบโตคู่กับการสถาปนาเมืองปัตตานีเมื่อครั้งอดีต มัสยิดรายอหรือชื่อเต็มมัสยิดรายอฟาฏอนี กำลังจะเข้าสู่วาระครบรอบ 180 ปี ในปี 2568 นอกจากจะเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาแล้ว ชุมชนรอบ ๆ มัสยิดยังเต็มไปด้วยผู้คน สถานที่ รวมทั้งเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับจารีตและขนบความเป็นมลายู ทั้งรูปแบบบ้านเรือนและทักษะของช่างฝีมือ สิ่งเหล่านี้ค่อย ๆ กลืนหายไปกับยุคสมัยของการเปลี่ยนแปลง


 

ร่วมถอดรหัสของคนปัตตานีในเทศกาล ‘ปัตตานีดีโคตร Pattani Decoded 2024’
ร่วมถอดรหัสของคนปัตตานีในเทศกาล ‘ปัตตานีดีโคตร Pattani Decoded 2024’
ร่วมถอดรหัสของคนปัตตานีในเทศกาล ‘ปัตตานีดีโคตร Pattani Decoded 2024’
ร่วมถอดรหัสของคนปัตตานีในเทศกาล ‘ปัตตานีดีโคตร Pattani Decoded 2024’
ร่วมถอดรหัสของคนปัตตานีในเทศกาล ‘ปัตตานีดีโคตร Pattani Decoded 2024’
ร่วมถอดรหัสของคนปัตตานีในเทศกาล ‘ปัตตานีดีโคตร Pattani Decoded 2024’
ร่วมถอดรหัสของคนปัตตานีในเทศกาล ‘ปัตตานีดีโคตร Pattani Decoded 2024’
ร่วมถอดรหัสของคนปัตตานีในเทศกาล ‘ปัตตานีดีโคตร Pattani Decoded 2024’
เนื้อหาล่าสุด