ภารกิจ ‘ครู’ แห่งโรงเรียนวัดต้นสน ที่ไม่ทอดทิ้งและมองหาโอกาสเพื่อเด็กๆ อยู่เสมอ
“เพื่อได้เห็นนักเรียนของเรา มีคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ครูยินดีทำ”
นี่คือเสียงจากหัวใจของ ‘ครูกฤษณา ไชยาวรรณ’ ครูโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน จังหวัดอ่างทอง ครูแอดมินระบบสารสนเทศได้กล่าวไว้ ด้วยความหวังที่อยากเห็นลูกศิษย์ทุกคน สามารถเดินทางต่อทางการศึกษาได้อย่างแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
จุดเริ่มต้นของ ‘ครู’ ผู้เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสให้เด็กนักเรียน เริ่มตรงที่เธอได้ไปเห็นในเฟสบุ๊กว่า มีทุนเสมอภาค ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กำลังเปิดรับอยู่ ด้วยความที่เธอเป็นครูซึ่งรับผิดชอบระบบสารสนเทศของทางโรงเรียนอยู่แล้ว จึงพอจะมองเห็นข้อมูลของครอบครัวเด็กนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีเด็กนักเรียนฐานะยากจนจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กนักเรียนของครอบครัวที่เป็นแรงงานข้ามชาติ ที่เข้ามาทำงานในตลาดขายส่งปลาน้ำจืดในจังหวัด และทำอาชีพรับจ้างทั่วไป
ครูกฤษณา จึงนำเสนอต่อผู้บริหารโรงเรียน ขออนุญาตคัดกรองเด็กเพื่อเข้าไปในกระบวนการคัดกรอง ให้ได้รับทุนการศึกษา เมื่อได้รับอนุญาต เธอจึงเริ่มทำงานนี้ ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา
ในกระบวนการนี้ไม่ใช่เพียงการส่งข้อมูลในคอมพิวเตอร์ออกไปเท่านั้น แต่ ครูกฤษณา จะต้องลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กนักเรียนเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งพอเพื่อนครูอีกสามคนทราบถึงความตั้งใจก็ลงมือช่วยเหลือด้วย ตั้งใจว่าจะได้เป็นตัวแบบให้ครูคนอื่น ๆ เห็นกระบวนการ ทำให้ในปีถัดมากระบวนการคัดกรองเก็บข้อมูลจึงขยายไปยังครูประจำชั้น และขยายต่อมาที่ครูประจำวิชาในอีกปีถัดไป
“พอภาคเรียนที่ 2/63 ครูมองแล้วว่าแค่สามคนไม่น่าจะเวิร์คแล้ว ทำไม่ทัน เลยขออนุญาตคุยกับครูประจำชั้น ว่าต้องขยายความรู้ที่เรามี ถ่ายทอดไปที่ครูประจำชั้นก่อน รวมทั้งให้คำปรึกษาเขาด้วยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะเราเองก็เจอปัญหาเยอะในช่วงภาคเรียนที่ 1 ทำให้มีการคุยกันว่า ถ้าไปเยี่ยมบ้านแล้วสอดคล้องกับโครงการเยี่ยมบ้านปกติของทางโรงเรียน ก็เก็บข้อมูลขอทุนไปด้วยเลย จะได้ไม่เสียเวลามาก และเริ่มขยับมาที่ครูประจำวิชาในภาคเรียนที่ 1/64” ครูกฤษณา บอก
ด้วยความทุ่มเทของเธออย่างจริงจังและจริงใจ เพื่อเด็กนักเรียนผู้ขาดโอกาส ทำให้คัดกรองเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวางระบบขยายการทำงานไปถึงคุณครูคนอื่น ๆ ของโรงเรียนได้อย่างครอบคลุม สร้างโอกาสเข้าถึงทุนสำหรับเด็กนักเรียน จนปัจจุบันทำให้มีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนแห่งนี้ ได้รับทุนการศึกษาแล้วกว่า 40 คน ต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ทำงานนี้มา
“การสื่อสารสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการส่งกำลังใจให้กันและกัน และส่งกำลังใจให้ผู้ปกครองด้วย บางทีการเยี่ยมบ้านไปเก็บข้อมูลไม่ได้ราบรื่นเสมอไป บางบ้านอยู่ในแหล่งชุมชนแออัด มีคนขี้เมาหรือมีคนติดยา ครูก็ต้องไปหมด บางทีต้องชวนกันไประวังหน้าระวังหลังให้ดี ว่าตรงไหน จุดไหน บ้านหลังไหน ที่เสี่ยงอันตราย”
“ตัวครูเองรับผิดชอบหลายงาน ทั้งงานประเมินผล เป็นผู้ช่วยงานทะเบียน งานสอนด้วย แล้วก็งานระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบสารสนเทศ และระบบทุนด้วย หนักมาก ท้อบ้าง แต่ก็ถ้าเห็นเด็กนักเรียนโรงเรียน มีคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คุณครูก็ยินดีทำ ให้เด็ก ๆ ทุกคนได้รับโอกาสในส่วนนี้ ด้วยความเป็นครู ครู คือ คุรุ แปลว่า หนัก ครูก็เป็นผู้ที่ทำงานหนักคนหนึ่งค่ะ แต่ครูก็ยินดีที่จะทำค่ะ” ครูกฤษณา กล่าว ด้วยความภาคภูมิใจ ถึงการทำหน้าที่ครูผู้ผลักดันให้เด็กนักเรียนได้รับทุนการศึกษา เพื่อเป็นรากฐานให้สามารถเดินต่อไปข้างหน้าบนเส้นทางในอนาคตตามที่ตั้งความหวังไว้