Skip to main content

'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน

7 กรกฎาคม 2567

รวิวรรณ รักถิ่นกำเนิด

 


จากความต้องการที่อยากทำในสิ่งที่รักของช่างภาพสัตว์ป่า และหญิงสาวนักทำขนมหวาน กลายมาเป็นไอติมที่จำลองสีสันของพันธุ์นกในเขาใหญ่ สร้างรสชาติด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นจนกลายเป็นหมุดหมายใหม่ของนักเดินทาง


เรื่องเริ่มจากความรักของช่างภาพและสาวนักทำขนม

 

เต้ย-ปฤษฎิ์ เก่งสูงเนิน กับ แนน-วราภรณ์ มงคลแพทย์ รู้จักกันตั้งแต่อนุบาล 3 สองรักกันและอยากใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน แต่สิ่งเดียวที่จะทำให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันอย่างมั่นคง คือ การทำธุรกิจที่เติมเต็มในสิ่งที่ทั้งสองคนรักและผูกพัน กลายมาเป็นไอติมจากผลไม้ที่มีจุดเด่น คือ การจำลองลาดลายและสีสันของพันธุ์นกและพันธุ์สัตว์ในป่าเขาใหญ่มาไว้บนขนมหวาน

“ผมออกตัวเลยว่า มันเป็นพลังของความคลั่งรักครับ พอเรารักกัน เราอยากทำอะไรด้วยกัน เราเลยหาตรงกลางที่จะทำร่วมกันได้ที่เป็นความฝันและความต้องการของเราทั้งคู่จริงๆ”

เต้ย เล่าย้อนถึงแรงบันดาลใจแรกเริ่มของการเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ ใจกลางเขาใหญ่ เต้ยเล่าว่า ก่อนที่จะมาเป็นพ่อค้า เขามีอาชีพเป็นช่างภาพสัตว์ป่า และช่วยครอบครัวทำกิจการเกี่ยวกับทัวร์ชมสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ส่วนแนนช่วยพัฒนาแบรนด์บ้านหมากม่วงของครอบครัว บวกกับทั้งสองคนเป็นเขาใหญ่ จึงอยากต่อยอดทุนในท้องถิ่นที่มีอยู่ โดยเฉพาะทุนทางธรรมชาติและผลผลิตการเกษตร ก็เลยออกมาเป็นไอติมโฮมเมดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความหลากหลายของสัตว์ป่าในเขาใหญ่

“ตอนนั้นที่เราตกลงกันว่า เราอยากทำไอติมโดยใส่ไอเดียเรื่องสีและลวดลายของสัตว์เข้าไป ผมเล่าให้แนนฟัง เขาทำความเข้าใจวันสองวัน ไอติมรสชาติแรกก็คลอดออกมาแล้ว เป็นรสที่ผมชอบ คือ คาราเมล บิสคอฟ ข้างในจะมีไส้เป็นน้ำผึ้งแท้ ต่อมาเราพัฒนาสูตรให้กลายมาเป็น รสแมวลายหินอ่อน เพราะสีของไอติมเป็นสีที่จำลองมาจากสีขนของแมว” เต้ยบอก

หลังจากไอติมรสแรกประสบความสำเร็จ ทั้งคู่ก็ค่อยๆ พัฒนาสูตรและรสชาติต่างๆ ออกมาถึง 20 รส โดยตั้งต้นจากการเลือกลวดลายของสัตว์ที่อยากนำมาทำเป็นรสชาติไอติม จากนั้นจึงค่อยๆ หาวัตถุดิบที่ให้สีได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งวัตถุดิบแทบจะทั้งหมดมากจากเครือข่ายเพื่อนๆ ในพื้นที่ ที่เป็นเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นลูกฟิกส์ วนิลา มะม่วง อะโวคาโด ซึ่งไอติมหนึ่งแท่ง ต้องมีวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างน้อยหนึ่งอย่าง

เต้ยอธิบายว่า หนึ่งในความตั้งใจของเขาที่อยากให้ลูกค้ารู้คือ เขาใหญ่มีผักผลไม้ และวัตถุดิบที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับต่างประเทศ และหากใครอยากตามไปอุดหนุนเกษตรกร เขาก็มีรายละเอียดผู้ผลิตให้เป็นการช่วยสนับสนุนกันทางอ้อม เพราะหากผู้ผลิตมีรายได้เพิ่ม ร้านก็จะได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพมาผลิตไอติมได้อย่างต่อเนื่อง

“เวลาลูกค้าเข้ามาในร้าน ผมจะอธิบายว่ารสชาติเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร วัตถุดิบเราได้มาจากไหน เวลาแนะนำรสชาติก็จะไม่บอกเขาว่ารสไหนขายดีที่สุด อยากให้ลองมากที่สุก แต่จะถามเขาว่าวันนี้อยากกินไอติมรสแบบไหน หรือก่อนหน้านี้กินอะไรมา เราจะได้เลือกรสที่น่าจะถูกใจลูกค้าได้ตรงที่สุด”

เต้ยเล่าต่อว่า สำหรับชื่อ ไทรสุก ซึ่งลูกค้าหลายคนถามว่าคืออะไร ทำไมต้องเป็นชื่อนี้ เขาตอบว่า ไทรสุก มาจากชื่อของต้นไทร เวลาที่ออกผลจะกลายเป็นศูนย์กลางของสัตว์น้อยใหญ่ในป่าที่เข้ามาเก็บกินผลผลิต ซึ่งเขาและแนนอยากให้ร้านไอติม เป็นศูนย์กลางที่นักท่องเที่ยวอยากแวะมาเมื่อมาที่เขาใหญ่  ที่มากไปกว่านั้น คือ ทั้งคู่ไม่ได้อยากให้ร้านเป็นเพียงร้านขายขนมหวาน แต่อยากให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องความหลากหลายของพันธุ์สัตว์พร้อมกันไปด้วย


กินไอติมแล้วออกไปส่องสัตว์

 

ภายในอาณาบริเวณของไทรสุก นอกจากร้านไอติม ด้านนอกยังจัดสรรให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่า ให้เด็กๆ และผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ผ่านฐานกิจกรรมแต่ละฐานเพื่อที่ว่า จะได้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสัตว์ป่าชนิดต่างๆ

เต้ยเล่าว่า ฐานกิจกรรมก็จะเริ่มตั้งแต่การสำรวจว่า เรารู้จักสัตว์เหล่านี้มากน้อยแค่ไหน ฐานรอยเท้าสัตว์ เป็นการฝึกจำแนกความแตกต่างของรอยเท้าสัตว์ ทำให้เป็นการเรียนรู้ที่ได้ทั้งรสชาติจากไอติมและข้อมูลจริงๆ จากห้องเรียนเล็กๆ ของร้าน

“ลูกค้าที่มาร้านเรามีหลากหลายมาก ทั้งที่อยากจะเข้ามากินไอติมอย่างเดียว ไปจนถึงกลุ่มที่รักธรรมชาติ ซึ่งกลุ่มหลังนี้จะมีความรู้เรื่องความหลากหลายของสัตว์อยู่แล้ว ซึ่งความตั้งใจของผม คือ อยากสื่อสารให้คนทุกกลุ่มรู้ว่า ที่ป่าเขาใหญ่เรามีสัตว์เหล่านี้อยู่นะ แค่คุณเลือกไอติมขึ้นมาหนึ่งรสชาติที่เป็นชื่อของสัตว์เหล่านั้น อย่างน้อยคุณก็รับรู้แล้วว่ามีพวกเขาอยู่ในป่า มีสีประมาณนี้นะแบบไอติมที่คุณกำลังกิน และถ้าอยากรู้มากขึ้นก็สามารถไปหาข้อมูลเพิ่มได้จากฐานกิจกรรมที่เราจัดไว้ให้”

ด้วยการนำเสนอที่มากไปกว่าแบรนด์ขนมหวาน แต่ยังชูจุดเด่นเรื่องการสื่อสารเรื่องธรรมชาติและการอนุรักษ์ ทำให้ไทรสุก เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงปี เต้ยเล่าว่า เปิดร้านได้ 3 วัน ก็มีสื่อมาสัมภาษณ์ ประจวบเหมาะกับโลกออนไลน์ที่ทุกคนอยากเล่าเรื่องและนำเสนอคอนเทนต์ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายให้อินฟลูเอ็นเซอร์มารีวิว

เต้ยทิ้งท้ายว่า แม้แบรนด์ไอติมของเขาและแนนจะประสบความสำเร็จในก้าวแรก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แต่ละขั้นตอนจะหอมหวานเหมือนไอติมที่เขาขาย เพราะการทำธุรกิจต้องพึ่งหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน การทำตลาด ไปจนถึงการขยายกลุ่มลูกค้า ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้ตลอดโดยไม่หยุดนิ่ง คือ การหมั่นทดลองสิ่งใหม่ๆ ให้มาก หาข้อมูลให้เยอะที่สุด เพราะมันจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยู่ตลอดเวลา


ไทรสุก
286 หมู่ 4 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 
Facebook: ไทรสุก - Sai Sook Khao Yai Wildlife Learning Ground & Local Treats
 

'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน
'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน
'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน
'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน
'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน
'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน
'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน
'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน
'ไทรสุก’ แบรนด์ไอติมที่เล่าเรื่องป่าเขาใหญ่ผ่านของหวาน
เนื้อหาล่าสุด