เริ่มจากความชอบจนกลายเป็นความหลงไหล เรื่องราว “ทองบางสะพาน” ทำให้ทุ่มเทเวลาสะสมทองและศึกษาความเป็นมา เกิดแนวคิดต่อยอดพัฒนาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ผ่านศูนย์การเรียนรู้กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนโดยคนในชุมชน
นายจิรฐกรณ์ อิสระพาณิชย์ หรือ โจ้ อายุ 38 ปี ชาวอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้มีความหลงไหลและสนใจในเรื่องราวของทองบางสะพานได้เริ่มเก็บสะสม ตระเวนหาซื้อทองบางสะพานจากชาวบ้านที่ร่อนชึ้นมาได้ สะสมเรื่อยมากว่า 10 ปี ต่อมานายจิรฐกรณ์ได้เกิดแนวคิดในการที่จะต่อยอดพัฒนาทองบางสะพานให้เป็นผลิตภัณฑ์
โดยนำทองผงและทองเกล็ดของทองบางสะพานมาผลิตเป็นเครื่องประด้บ ซึ่งเพิ่มมูลค่าให้กับทองบางสะพานให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เสมือนฟันเฟืองเล็กๆที่ช่วยการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในพื้นที่ ระหว่างชาวบ้านนักร่อนทอง กับ ผู้ที่ชื่นชอบและอยากเเป็นเจ้าของทองบางสะพาน ทองคำที่จัดว่าเป็นทองที่ดีที่สุดในประเทศก็ว่าได้
ทั้งนี้ นายจิรฐกรณ์ ได้ค้นคว้าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับทองบางสะพาน ผ่านการพูดคุยกับชาวบ้านที่เป็นนักร่อนทองในพื้นที่ จึงเกิดแนวคิดที่ต้องการจะเปิดพื้นที่เพื่อบอกเล่าเรื่องราว ประวัติความเป็นมาต่างๆ ที่เกี่ยวกับกับทองบางสะพาน ทั้งลักษณะทางกายภาพตลอดจนสภาพแวดล้อมของพื้นที่ ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน วิธีการขุดหาและร่อนทอง ผ่านภูมิปํญญาท้องถิ่น
ในรูปแบบต่างๆ ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน รวบรวมไว้เป็นแหล่งความรู้ให้กับนักเรียน นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่สนใจ จึงได้ใช้งบประมาณส่วนตัวในการออกแบบและจัดสร้างในรูปแบบพิพิธภัณฑ์
โดยปรับบริเวณบ้านของตัวเองที่ตั้งอยู่ที่ ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด” มีการนำทองบางสะพานในรูปแบบต่างๆ ทั้งทองผง-ทองเกล็ด-ทองเม็ดและทองอมหิน สื่อวีดีทัศน์ และชุดข้อมูลที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของทองบางสะพานจัดแสดง
ตลอดจนสามารถเรียนรู้วิธีการสังเกตตรวจสอบทองคำบางสะพาน ที่เป็นทองบริสุทธิ์ถึง 99.99% ด้วยวิธีการต่างๆ นอกจากนี้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมยังสามารถชมการสาธิตและทดลองร่อนทอง โดยการใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า “เลียง” ที่บ่อร่อนทองจำลองภายในศูนย์เรียนรู้แห่งนี้
ทั้งนี้ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด นอกจากจะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากจากชุมชนนักร่อนทองแล้วนั้น ยังมีส่วนช่วยในด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ ตลอดจนการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สามารถต่อยอดพัฒนาเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตชุมชนเกี่ยวกับทองบางสะพานที่สำคัญและสมบูรณ์แบบที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมู่บ้านนักขุดทองในอดีต ซึ่งปัจจุบันคือ บ้านป่าร่อน ค.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังสามารถพบเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านในพื้นที่บางส่วนที่ว่างเว้นจากการเข้าสวนเข้าไร่ จะแบกพลั่ว ถือ "เลียง" ซึ่งเป็นเครื่องมือโบราณในการร่อนทองลงไปในคลองทอง เพื่อขุด-ร่อนหาทองที่สามารถพบได้ทั่วไปบริเวณริมตลิ่งสองฝากฝั่งของ “คลองทอง” ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “สายน้ำแห่งแร่ทองคำ” แหล่งทองคำที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ
นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจสามารถที่จะเข้ามาร่อนหาทองได้ โดยสามารถหาเช่าอุปกรณ์จากชาวบ้านในพื้นที่ราคาชุดละ 100 บาทต่อวัน เป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่อีกทางหนึ่ง ซึ่งมีความเชื่อกันว่าทองคำบางสะพานนั้น เลือกเจ้าของ ดังนั้นการขุด-ร่อนทองนั้นหาใช่ว่าจะได้กันโดยง่ายหรือได้กลับไปทุกคน ขึ้นอยู่กับโชคและดวงของคนผู้นั้น
โดยทองที่พบได้ที่นี่จะมีลักษณะ 4 รูปแบบ ได้แก่ ทองผง-ทองเกล็ด-ทองเม็ดและทองอมหิน ส่วนใหญ่มักพบในรูปแบบของทองผง-ทองเกล็ด แต่ช่วงหลังฤดูน้ำหลากหรือน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่จะเป็นที่ทราบกันว่าเป็นช่วงเวลาทองอย่างแท้จริงจะมีโอกาสร่อนได้ทองเม็ดหรือทองอมหินได้มากกว่าปกติ
ราคาซื้อขายทองบางสะพานจะสูงกว่ามูลค่าราคาทองคำทั่วไปตามท้องตลาดขึ้นอยู่กับรูปแบบและน้ำหนักของทอง โดยราคาซื้อขาย ณ ปัจจุบัน (ราคาทองคำแท่ง บาทละ 31,000 - 32,000 บาท) ถ้าเป็นทองผง-ทองเกล็ด จะอยู่ที่บาทละ 38,000 - 45,000 บาท
ถ้าเป็นทองเม็ดเล็ก ราคาบาทละ 60,000 - 85,000 บาท ทองเม็ดขนาดน้ำหนักหนึ่งบาท ราคาบาทละ 120,000 - 150,000 บาท และถ้าเป็นทองเม็ดขนาดน้ำหนักสามบาทขึ้นไป ราคาบาทละ 170,000 - 200,000 บาท หากจะว่าไปราคาทองบางสะพานจะเป็นราคาที่ผู้ซื้อ-ผู้ขายตกลงกันตามความพอใจของทั้งสองฝ่าย