ทับสะแกจัดใหญ่งาน “เทศกาลว่าวนานาชาติ” หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว ชวนนักท่องเที่ยวชมสีสันว่าวไทยและว่าวแฟนซีเหนือท้องฟ้าชายทะเลบ้านทุ่งประดู่
นายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอทับสะแก เปิดเผยว่า งานเทศกาลว่าวนานาชาติ ประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 เมษายน 2567 นี้ บริเวณบ้านทุ่งประดู่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในอำเภอทับสะแก ซึ่งอำเภอทับสะแกเป็นเมืองเล็กๆ แต่มีแหล่งท่องเที่ยวครบทั้งอุทยานแห่งชาติ ทะเล ภูเขา น้ำตก วัดวาอาราม อาหารพื้นถิ่น ฯลฯ จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมงาน และท่องเที่ยวในอำเภอทับสะแก
ด้าน นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า อบจ.เป็นหน่วยงานที่พร้อมให้การสนับสนุนท้องถิ่นในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะปัจจุบันประจวบคีรีขันธ์รายได้หลักของจังหวัดมาจากการท่องเที่ยว ซึ่ง อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ยินดีสนับสนุนการจัดงานเทศกาลว่าวนานาชาติในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อชุมชนมีรายได้หมุนเวียนมากขึ้น
นายโพสิทธิ์ เครือวัลย์ ประธานกลุ่มรักหาดทับสะแก กล่าวถึงการจัดงานเทศกาลว่าวนานาชาติว่า บ้านทุ่งประดู่เป็นหมู่บ้านชาวประมง ตามวิถีในอดีตจะมีชาวบ้านทำว่าวออกมาเล่นกันจำนวนมาก ในช่วงหน้าว่าว เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีการประดิษฐ์ว่าวหลากหลายชนิด ทั้งว่าวปักเป้า ว่าวแฟนซีต่าง ๆ มากมาย แต่ปัจจุบันกีฬาชนิดนี้เริ่มสูญหายไป เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จักว่าว ซึ่งกลุ่มรักหาดทับสะแกตระหนักถึงเรื่องอนุรักษ์ว่าว จึงได้จัดงานขึ้นมาปีนี้เป็นปีที่ 2 โดยปีนี้จะมีการแข่งขันประดิษฐ์ว่าวพื้นเมือง ว่าวแฟนซี การวาดภาพบนว่าวระดับเยาวชน อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวและเยาวชนมาเที่ยวงาน ในงานมีบูทสอนการทำว่าวให้ฟรีด้วย ซึ่งกลางวันจะมีการโชว์ว่าวนานาชาติ ส่วนในช่วงเย็นจะมีอาหารชุมชนจัดจำหน่าย
นางปองทิพย์ วิวัฒสิเนศวร ผู้ช่วย ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปีที่ผ่านมามีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 4หมื่นล้านบาท ซึ่งปีนี้ เฉพาะเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ มีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์แล้วกว่า 2 ล้านคน ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยว กว่า 9 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2566
ทั้งนี้ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ พร้อมสนับสนุนการจัดงานด้วยการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อที่ ททท.ดูแลทั้งในส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง เพื่อส่งข้อมูลการจัดงานฯ ถึงนักท่องเที่ยว ได้ทราบถึงการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจนี้ และวางแผนเดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอทับสะแกได้ สำหรับกิจกรรมนี้นอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังสื่อถึงภาพลักษณ์ของทับสะแกอย่างชัดเจน ในการเป็นเมืองที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและการท่องเที่ยวเชิงกีฬาไปพร้อมกัน จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสมาท่องเที่ยว อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะประจวบฯ เที่ยวได้ 365 วัน
